เชียงใหม่ - “จ่านิว-นักวิชาการดัง-อาจารย์ มช.” ให้กำลังใจแกนนำกลุ่มสมัชชาเสรีฯ-นปช.ทั้งเชียงราย และกำแพงเพชร เข้ารายงานตัวตำรวจภูพิงค์ รับฟังข้อกล่าวหาขัดคำสั่ง คสช. หลังร่วมชุมนุมคนอยากเลือกตั้งหน้าป้าย มช.
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำกลุ่มสมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย, นปช.เชียงราย นปช.กำแพงเพชร และนักศึกษา มช. รวม 6 คน คือ นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นศ.คณะมนุษย์ศามตร์ มช., นายสิทธิชัย คำมี นศ.คณะศึกษาศาสตร์ มช., นายยามารุดดิน ทรงศิริ นศ.มธ.ศูนย์ลำปาง , นายจตุพล คำมี นศ.คณะวิทยาศาสตร์ มช., น.ส.จิตต์ศจีฐ์ นามวงค์ นปช.เชียงราย ,นายอ๊อด แอ่งมูล นปช.กำแพงเพชร ได้เดินทางมาที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ เพื่อรายงานตัวและให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.สถาพร โพธิ์ศรี รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ หัวหน้า พงส.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ หลังร่วมชุมชนคนอยากเลือกตั้งบริเวณป้ายหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมาผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.สาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เรื่องห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
โดยครั้งนี้พบว่ามีนักวิชาการ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งมวลชนมาร่วมให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง เช่น นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระด้านการเมืองการปกครอง, ผศ.ดร.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มช., นายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระ, รวมถึงอาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มช.-นักกิจกรรมเคลื่อนไหวด้านสังคมและการเมือง, นายองอาจ ตันธนสิน แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่, นายพิจักษ์ ตระกูลจันทร์ผง แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้เวลาการสอบสวนประมาณ 2 ชม.เศษ พนักงานสอบสวน ได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนแยกย้ายกันกลับบ้านไป พร้อมนัดส่งฟ้องอัยการในวันที่ 9 เมษายน 61 ที่จะถึงนี้
ด้านนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ นักศึกษาคณะมนุษย์ศาตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หนึ่งใน 6 ผู้ต้องหา กล่าวว่า ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและเชื่อมั่นว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นที่ประชาชนทุกคนสามารถทำได้ หลังจากนี้ก็พร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมตามข้อเท็จจริงต่อไป
