xs
xsm
sm
md
lg

“หนุ่ม กะลา”ยื่น 1 แสนประกันตัว หลังโดนหมายจับละเมิดลิขสิทธิ์เพลง"ยาม" ยันไม่มีเจตนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มกะลา” ควงทนายความส่วนตัว เข้าพบ ผกก.สภ.พัทยา หลังถูกออกหมายจับฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดัง “ยาม” แต่ยังเคลียร์ไม่ลงตัว ล่าสุด ยื่น 1 แสนบาทประกันตัว เผยไม่มีเจตนากระทำผิด

จากกรณีที่ นายบุญธรรม เพ็ชรนารถ ประธานกรรมการ บริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง เพ็ชรเมโทร จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ. 99/2561 ลงวันที่ 8 มี.ค. 2561 เดินทางไปยังตึกแกรมมี่ เพื่อจับกุมตัว นายณพสิน แสงสุวรรณ อายุ 36 ปี หรือ “หนุ่ม กะลา” ศิลปินชื่อดัง ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณะชน ซึ่งงานดนตรีกรรม หรือโสตทัศนวัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยระบุว่าเมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา นายณพสิน หรือ หนุ่ม กะลา ได้ไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่ร้าน “คลับ อินซอมเนีย” ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ต.หนองปรือ อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และนำเพลง “ยาม” ไปร้องในร้านและในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ อีกหลายครั้ง โดยไม่ได้มีการขออนุญาตกับเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (12 มี.ค.) นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” ได้เดินทางพร้อมด้วยทนายความส่วนตัว และกลุ่มเพื่อน เข้าพบ พ.ต.อ.อภิขัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ ร.ต.ท.(ญ) ชนิกานต์ เผื่อนพินิจ รอง สว.สส.สภ.เมืองพัทยา เพื่อรับฟังข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 ในมาตราที่ 27 ที่กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15(5) ได้แก่ การทำซ้ำหรือดัด แปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณะ มาตรา 28 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 29 (3) จัดให้ประชาชนฟังหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า มีโทษความผิดทางอาญาจำคุก 4-6 ปี และปรับ 1 แสน -8 แสนบาท


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายณพสิน หรือ “หนุ่มกะลา” ว่าที่ผ่านมาเคยได้รับหมายเรียกมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งที่ 2 ไม่ได้รับ อีกทั้งยังอยู่ในช่วงของการพูดคุยกับทนายความเรื่องของคดี จึงทำให้ล่าช้าและไม่มารับทราบข้อกล่าวหา กระทั่งถูกออกหมายจับ


“ เรื่องนี้ต้องขอ “ยอมรับผิด” แต่ที่ทำไปเพราะไม่ทราบว่าเป็นเพลงที่มีปัญหา และไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามประสานงานเพื่อแก้ไขมาตลอด แต่ติดปัญหาบางอย่างจึงทำให้เกิดความล่าช้ากระ ทั่งมีหมายจับ ส่วนตัวแล้วอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี แม้จะมีผลกระทบกับงานเป็นอย่างมากเพราะต้องทำงานตลอดทั้ง 7 วัน ทำให้การพักผ่อนน้อยเพราะต้องเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามสถานีต่างๆทั่วประเทศ ขณะที่การเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงจากนี้คงจะมีการนัดเพื่อหาทางออกและต้องขอความอนุเคราะห์และความเห็นใจจากค่ายเพลงด้วย เพราะที่ทำไปเป็นเรื่องที่ไม่ตั้งใจหรือเจตนา ส่วนเรื่องที่เกิด ขึ้นต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่คอยให้กำลังใจ ส่วนที่สงสัยว่าทำไมนิ่งเฉยจนปล่อยให้มีการออกหมายจับนั้น ยืนยันว่าไม่ได้บ่ายเบี่ยงหรือหลบเลี่ยงแต่เป็นความผิดพลาดเรื่องของเวลาเท่านั้น ” นายณพสิน หรือ “หนุ่ม กะลา” กล่าว


เช่นเดียวกับ นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความส่วนตัวของ “หนุ่มกะลา” ที่เผยว่าที่ผ่านมา “หนุ่ม” นำเพลงนี้ไปร้องแสดงตามงานต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.ถึง ธ.ค. 2560 ด้วยความที่เข้าใจว่าเพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัท แกรมมี่ ต้นสังกัด โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเพลงนี้มีปัญหา และไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมาย กระทั่งมาทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีใน 47 สถานีทั่วประเทศ ช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้ละเลยหรือนิ่งเฉยและได้พยายามติดต่อพนักงานสอบสวน และค่ายเจ้ ของลิขสิทธิ์มาตลอดแต่ก็หาข้อยุติไม่ได้ และในขณะนั้น “หนุ่มกะลา” ได้ประสานให้ตนเองเข้ามาทำหน้าที่ในการดูแลเรื่องคดี กระทั่งมีการออกหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นที่แรก จึงเดินทางมารับฟังข้อกล่าวหาและประ กันตัว

" สำหรับคดีนี้เป็นความเข้าใจผิดและความผิดพลาดของศิลปินเอง ที่ไม่ทราบถึงกรณีดังกล่าวมาก่อน และเมื่อทราบว่ามีปัญหาก็ไม่เคยนำเพลงนี้มาเล่นหรือแสดงอีก อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ และตัวศิลปินก็พร้อมเจรจายินดีชดใช้และเยียวยา" ทนายความส่วนตัวของ “หนุ่มกะลา” กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ ซึ่งหากมีการเจรจาและตกลงกัน ผู้เสียหายก็สามารถถอนคำร้องเพื่อให้เรื่องยุติได้ แต่เมื่อยังไม่มีการเจรจา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องดำเนินการไปตามขบวนการ และจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำ และสุดท้ายหากไม่มีการเจรจาตกลงยอมความกัน ก็คงจะให้ประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาทไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วน นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด เผยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องในหลายกรรม หลายวาระ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากถูกละเมิด ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามพูดคุยและเจรจากับศิลปินมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ตกลงไม่ได้ นอกจากนี้ยังเคยเดินทางไปพบเจ้าตัวที่ตึกแกรมมี่ แต่เจ้าตัวไม่ยอมลงมาพบ จึงปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งเพลง "ยาม"เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทฯ ที่ถือเป็นทรัพย์สิน เมื่อมีคนมาขโมยออกไป ก็ต้องขอคืนหรือเรียกร้องค่าเสียหาย ส่วนที่ว่าจะเคลียร์อย่างไรคงบอกในขณะนี้ไม่ได้ และหากตกลงกันได้ก็พร้อมถอนคดี



กำลังโหลดความคิดเห็น