“บัวขาว บัญชาเมฆ” แจ้ง ปอศ.เอาผิดมือโพสต์ตัดต่อภาพแอบอ้างชื่อโฆษณาขายสินค้า

MGR Online - ส.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ “บัวขาว” ร้อง ปอศ.ถูกมือดีนำรูปและชื่อมาโฆษณาแอบอ้างชื่อขายสินค้าประเภทยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อต่างๆ มีการสั่งผลิตสินค้าที่ประเทศจีน

วันนี้ (2 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ส.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว นักมวยชื่อดัง พร้อมด้วยนายสันติวัสถ์ สังข์วรรณะ ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันพร้อมนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. หลังมีคนแอบอ้างชื่อตัวเองไปทำสินค้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแผ่นสมุนไพรแปะเท้า

ส.ท.สมบัติเปิดเผยว่า สินค้าดังกล่าวใช้รูปลายเส้นนักมวยสวมมงคล คล้ายกับรูปถ่ายของ ส.ท.สมบัติที่เคยถ่ายไว้ พร้อมทั้งมีการใช้ชื่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษคำว่า “บัวขาว” เป็นชื่อสินค้า ทำให้เหล่าผู้สนับสนุนและแฟนคลับต่างเข้าใจผิดคิดว่าสินค้าดังกล่าวเป็นของตนเอง ดังนั้น ในวันนี้จึงได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทนายความส่วนตัวดำเนินการในส่วนของกฎหมาย

ส.ท.สมบัติเปิดเผยอีกว่า รู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับตัวเอง ซึ่งมีคนถามมาเยอะมากจนต้องออกมารักษาสิทธิของตนเอง และไม่อยากให้แฟนคลับและคนอื่นๆ เข้าใจผิดไปด้วย

ขณะที่นายสันติวัสถ์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆ เอาไว้แล้ว ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าประเภทยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อต่างๆ มีการสั่งผลิตสินค้าที่ประเทศจีน ก่อนนำเข้ามาขายภายในประเทศไทย อีกทั้งมีการตั้งออฟฟิศอยู่ที่ จ.ชลบุรี นอกจากนี้ยังทราบว่าสินค้าดังกล่าวมีตัวแทนจำหน่ายระดับวีไอพี และซูเปอร์วีไอพี จำนวนกว่า 200 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศไทย โดยขั้นแรกจะดำเนินคดีต่อเจ้าของสินค้าดังกล่าวในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2522 ส่วนตัวแทนจำหน่ายจะพิจารณาในการดำเนินคดีอีกครั้งหนึ่ง

ทางด้านพ.ต.ท.ณัฐพนธ์ จุ้ยอำนวย สว.(สอบสวน) กก.3บก.ปอศ.ระบุว่า หลังจากนี้จะนัดทางทนายความมาสอบสวน พร้อมนำหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในวันที่ 6 มี.ค. ส่วน ส.ท.สมบัติไม่ได้เดินทางมาด้วยเนื่องจากติดภารกิจ จึงได้มอบอำนาจให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการแทน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการออกหมายเรียกให้มาพูดคุยตกลงกันก่อน เนื่องจากข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ สามารถพูดคุยและยอมความกันได้ แต่หากพูดคุยตกลงกันไม่ได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป