xs
xsm
sm
md
lg

พบ รอส.ชูธง “ร่วมทุนทำรีสอร์ตเขาค้อ” จนหลุดคดีเป็นแผงทั้งที่ผิดเงื่อนไขกองทัพชัด(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพชรบูรณ์ -เพชรบูรณ์ - เปิดบันทึกคำให้การ รอส.เขาค้อ นำที่ดินจัดสรรหลังสิ้นเสียงปืนแตกลงทุนสร้างรีสอร์ตเกลื่อนยอดภู ล่าสุดเจ้าหน้าที่ลุยเค้นถามทั้งผู้ครอบครอง-ทายาท



รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจาก พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน., นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) มอบนโยบายแก้ไขปัญหารีสอร์ตรุกป่า-รีสอร์ต รอส.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เตรียมตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดขึ้นมาเริ่มต้นหาหลักฐานใหม่

เตรียมดำเนินคดีตึกยักษ์ที่ปลูกสร้างบนแปลงที่ดินราษฏรอาสา(รอส.)บ้านสุ่งคุ้ม ต.เขาค้อ อันดับแรก พร้อมควานหาหลักฐานใหม่เพิ่มเติม รื้อฟื้นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 54 ขึ้นมาใหม่จำนวน 61 คดี โดยมีจำนวน 27 คดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง (มี 17 คดีหลักฐานไม่พอ และ 10 คดีขาดเจตนา) นอกจากนี้ยังมีคดีที่ค้างอยู่ในชั้นอัยการและอื่นอีก

กรณีคดีตึกยักษ์ 3 หลังที่ปลูกสร้างบนแปลงที่ดิน รอส.ในครอบครองของ นายละออ จีนใจตรง หนึ่งใน “ราษฎรอาสาสมัคร-รอส.สมรภูมิเขาค้อในอดีต” ปัจจุบันอายุ 81 ปี อาศัยอยู่กับลูกสาว บ้านเลขที่ 74 ม.3 ต.วังน้ำคู้ อ.เมืองพิษณุโลก

เบื้องต้นพบเป็นคดีที่ 217/2559 ซึ่งระบุว่านายละออ ให้นายอภิชา (ขอสงวนนามสกุล) เข้าไปทำการเกษตร แต่นายอภิชาไปก่อสร้างตึกในที่ดินโดยนายละออไม่ทราบ และไม่ได้เป็นการร่วมทุนจริง แต่เป็นเพียงข้อตกลงปากเปล่าที่มีลักษณะเป็นการเช่า โดยจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท

และพื้นที่เดี่ยวกัน ซึ่งเป็นคดีที่ 218/2559 นายละออ อนุญาตให้นางทองคำ (ขอสงวนนามสกุล) ที่เป็นเพียงคนรู้จักอยู่หมู่บ้านเดียวกันเท่านั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นญาติในครอบครัว เข้าไปก่อสร้างบ้านพักในที่ดิน รอส.

อย่างไรก็ตาม ต่อมาอัยการ มีคำสั่งไม่ฟ้องทั้งสองคดี

และตลอด 2 วันที่ผ่านมา (7-8 มี.ค.) พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ ศปป.4 กอ.รมน. และจนท.ป่าไม้ (พยัคฆ์ไพร) เดินหน้ารุดสอบ รอส.เจ้าของที่ดิน เพื่อหาหลักฐานใหม่รื้อฟื้นคดี จากเดิมที่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ฐานบุกรุก ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2507 มาตรา 14 ซึ่งเมื่อมีการใช้ข้อหา “ร่วมลงทุน” ทำให้ไม่สามารถเอาผิดได้

ซึ่งล่าสุดชุด ศปป.4 กอ.รมน. กับ จนท.กรมป่าไม้ ได้เข้าสอบปากคำ รอส.แล้วหลายราย เช่น นางทิ้ง อ้นชาวนา รอส.ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากกองทัพภาคที่ 3 ที่ต่อมาได้ให้คนเข้าลงทุนสร้างสิ่งปลูกสร้าง บนแปลงที่ดิน รอส.บ้านส่งคุ้ม ใกล้เคียงตึกยักษ์ และเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมดำเนินคดีแล้ว แต่อัยการจังหวัดหล่มสัก มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เนื่องจากร่วมลงทุนกับ รอส.สร้างพักตากอากาศ ขาดเจตนาบุกรุกก่อสร้างแผ้วถางป่าตามข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ยังเข้าสอบปากคำนางทิ้ง อ้นชาวนา รอส.อายุ 85 ปี 33 หมู่ 12 ต.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และ นางยุพา อ้นชาวนา 85 ปี 33 หมู่ 12 ต.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้ความว่า นางทิ้ง เป็น รอส.เมื่อปี 2518 และได้สิทธิที่ดินจัดสรร 20 ไร่ ต่อมาปี 2560 น.ส.ฐิติรัตน์ ชาวกำแพงเพชร มาชักชวนทำบ้านพักตากอากาศ ภายใต้เสนอจ่ายค่าตอบแทน 100,000 บาท แต่ไม่ได้ลงชื่อในเอกสาร แต่ไปบันทึกเป็นหลักฐานที่ สภ.เขาค้อ ในลักษณะให้เช่าที่ดิน หลังจากนั้นไม่ได้เข้าไปที่ดินอีก โดยผู้เช่าเป็นคนขอไฟฟ้าเอง การจ่ายค่าเช่าเป็นเงินสดแล้วประมาณ 5-6 หมื่น

ทั้งที่กรณี รอส.นำที่ดินที่ได้รับการจัดสรรตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก พ.ศ. 2521 ภายใต้นโยบาย 66/23 ให้บุคคลอื่นเข้าก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง โดยข้อเท็จจริงแล้วถือว่าผิดข้อบังคับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเขต 3 ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดที่ดินตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก พ.ศ. 2521 ใน 4 ประเด็น ดังนี้

3.1 ตามข้อบังคับฯ หมวด 4 ว่าด้วยการจัดที่ดิน ข้อ 8(2) การจัดแบ่งที่ดิน ให้จัดแบ่งที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 200 ตร.ว. เป็นพื้นที่เกษตรกรรมครอบครัวละ 20 ไร่ เมื่อปรากฏว่าสมาชิก รอส.ผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินตามข้อบังคับฯ นำที่ดินสำหรับเกษตรกรรม 20 ไร่ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกจากเกษตรกรรม ย่อมเป็นการกระทำผิดไปจากข้อบังคับตามข้อ 7(14) ซึ่ง ผอ.รมน.ภาค 3 สามารถตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบและเพิกถอนสิทธิการเป็นสมาชิก รอส.ได้ตามข้อ 19 สิทธิในที่ดิน รอส.จึงสิ้นไป

3.2 ตามข้อบังคับฯ ข้อ 7(14) “ไม่จ้างหรือวานบุคคลอื่นเป็นแรงงานแทนตนเพื่อทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับมอบ” เมื่อปรากฏว่า รอส.ผู้นั้นได้รับมอบที่ดินตามข้อบังคับฯ ให้ผู้อื่นทำประโยชน์แทนตนในที่ดิน รอส. โดยตนได้รับผลตอบแทนจากการที่ผู้อื่นนั้นเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน รอส. ย่อมถือได้ว่าผู้นั้นวานบุคคลอื่นเป็นแรงงานแทนตนเพื่อทำประโยชน์ในที่ดินที่ได้รับมอบ ดังนั้นจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับฯ ผอ.รมน.ภาค 3 สามารถตั้งกรรมการเพื่อตรวจสอบและเพิกถอนสิทธิการเป็นสมาชิก รอส.ได้ตามข้อ 19 สิทธิในที่ดิน รอส.จึงสิ้นไป

3.3 แนวทางที่ 3 ตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. 2560 ออกตามความ พ.ร.บ.ผังเมือง พ.ศ. 2518 ข้อ 18 ให้ดำเนินการหรือประกอบกิจการในอาคารที่มีพื้นที่อาคารไม่เกิน 200 ตร.ม. มีความสูงไม่เกิน 6 เมตร และห้ามสร้างโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรมฯ

ฉะนั้น เมื่อนำที่ดิน รอส.มาสร้างอาคารสูงมีพื้นที่เกิน 200 ตร.ม. หรือมีความสูงเกิน 6 เมตร หรือประกอบกิจการโรงแรม ซึ่งน่าจะเกิดความเสียหายต่อโครงการ รอส. ตามข้อบังคับข้อ 7(13)

3.4 เมื่อ รอส. ผู้ใดนำที่ดิน รอส.ไปร่วมทุน/ลงทุนกับบุคคลภายนอก ผู้นั้นย่อมคาดหมายได้ว่าบุคคลภายนอกนั้นจะเข้ามาอาศัยในที่ดิน รอส. ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าโครงการ เป็นการผิดข้อบังคับข้อ 7(6)

4. เมื่อ รอส.กระทำผิดตามข้อ 3 การเพิกถอนสมาชิกภาพตามข้อบังคับ ทำให้สิทธิในที่ดินสิ้นสุดไป ต้องออกจากที่ดิน ซึ่งเป็นอำนาจของ ผอ.รมน.ภาค 3 ตามข้อบังคับฯ แต่การเพิกถอนหนังสือรับรองเป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด และต้องออกจากที่ดินภายใน 30 วัน แต่สมาชิกภาพ รอส.ยังคงอยู่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการสอบปากคำทายาท รอส.อย่างต่อเนื่อง เท่ากับว่าเจ้าของรีสอร์ตทั่วอำเภอเขาค้อที่ทำผิดเงื่อนไขการขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากกองทัพภาคที่ 3 มีสิทธิ์ถูกเรียกตัวเข้าให้ข้อมูลกันในเร็ววันนี้ทุกราย


กำลังโหลดความคิดเห็น