ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สตช.มอบโล่เชิดชูเกียรติให้อดีตตำรวจ สภ.เรณูนคร เจ้าของสำนวนคดี “ครูจอมทรัพย์” ขับรถชนคนตาย เป็นตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้เยี่ยม ด้านเจ้าตัวเผยช่วงรื้อฟื้นคดีถูกสังคมด่าเละแต่ไม่ท้อ ฝากพนักงานสอบสวนรุ่นหลังให้ยึดมั่นหลักฐานนิติวิทยาศาสต์เป็นหลัก อย่าให้น้ำหนักพยานบุคคล
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการพัฒนาศักยภาพพนักงานสอบสวน ประจำปีงบประมาณ 2561 เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ความสามารถ และเพิ่มพูนทักษะในการปฏิบัติงานด้านการสอบสวนให้แก่พนักงานสอบสวนในสังกัดตำรวจภูธรภาค 4 ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พร้อมทั้งได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ พ.ต.ท.ทงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง อดีตรองผู้กำกับการ สอบสวน สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และอดีตพนักงานสอบสวน สภ.เรณูนคร จ.นครพนม เจ้าของสำนวนการสอบสวนคดีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเสียชีวิตในพื้นที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อปี 2548 หรือเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา
มีผู้ต้องหาคือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ศรีบุญหอม อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร โดยหลังจากได้รับการอภัยโทษ นางจอมทรัพย์ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม จนนำมาสู่การรื้อฟื้นคดีดังกล่าว และในที่สุดนางจอมทรัพย์กลายเป็นผู้ต้องหาตัวจริง โดยร่วมกับผู้ต้องหาอีกหลายคนสร้างพยานเท็จ
พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทงศักดิ์ ถือเป็นแบบอย่างของพนักงานสอบสวนที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชู ในฐานะผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ และยึดมั่นในพยานหลักฐานเป็นสำคัญ แม้ที่ผ่านมาจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ในท้ายที่สุดศาลฎีกาก็ได้ตัดสินยกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีของนางจอมทรัพย์ และนำมาสู่การเปิดโปงขบวนการรับจ้างติดคุกแทน
ด้าน พ.ต.ท.ทงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง อดีตพนักงานสอบสวน สภ.เรณูนคร จ.นครพนม กล่าวว่า รู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผู้บังคับบัญชามอบโล่รางวัลให้เพื่อเป็นการยกย่องในฐานะพนักงานสอบสวนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจและยึดมั่นในพยานหลักฐาน แม้ว่าในช่วงที่มีการรื้อฟื้นคดีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเสียชีวิตที่มีนางจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร เป็นผู้ต้องหา และอดีตผู้ต้องโทษ ตนได้ถูกกระแสสังคมโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
แต่ก็ไม่รู้สึกท้อ โดยได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมฝากไปถึงพนักงานสอบสวนรุ่นหลังว่า ไม่ว่าการทำคดีจะมีแรงกดดันมากแค่ไหน ก็ขอให้ยึดมั่นในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพราะพยานบุคคลสามารถให้การกลับไปกลับมาได้ ซึ่งแตกต่างจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์