xs
xsm
sm
md
lg

ฉาวโฉ่อีก! แม่นักศึกษาญี่ปุ่นบุกร้องตำรวจบุรีรัมย์ บิดเบือนคดีฆ่าลูกชาย-ปล่อยคนร้ายลอยนวล(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แม่เยาวชนวัย 17  นักศึกษาญี่ปุ่น บุกร้อง ผกก.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ให้ตรวจสอบพนักงานสอบสวนทำคดี 2 พี่น้องลูกอดีต ขรก.ครูฆ่าลูกชาย ไม่เป็นธรรม บิดเบือนสำนวนและปล่อยคนผิดลอยนวล วันนี้ ( 18 ก.พ.)
บุรีรัมย์- ฉาวโฉ่อีก! แม่เยาวชนวัย 17 นักศึกษาญี่ปุ่น บุกร้อง ผกก.นางรอง บุรีรัมย์ ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนทำคดี 2 พี่น้องลูกอดีต ขรก.ครูฆ่าลูกชาย ไม่เป็นธรรมบิดเบือนสำนวน ไม่นำภาพวงจรปิดและอาวุธมีดของกลาง หลักฐานสำคัญประกอบสำนวน และปล่อยคนร้ายลอยนวล



วันนี้ ( 19 ก.พ. ) นางควดี ทะเคะอุจิ อายุ 47 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แม่ของ นายเจตริน อำพันทอง หรือ ตะวัน อายุ 17 ปี ที่เรียนอยู่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นายศุภศิษฏ์ ชาติภูอดุลย์สิริ ทนายความ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.นางรอง ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่ทำคดี นายสิทธิศักดิ์ สวัสดิพูน หรือดิ่ง และนายจักรกฤษ หรือดิว สองพี่น้อง ซึ่งเป็นลูกชายของอดีตข้าราชการครู ร่วมกันทำร้ายร่างกายทั้งชกต่อย ใช้ขวดขว้างปา และอาวุธมีดที่พกติดตัวมาด้วยแทงกลางหน้าอกลูกชาย จนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 21 ส.ค.59

โดยครอบครัวติดใจการทำคดีของพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการแจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำผิดที่แจ้งเพียงคนเดียว คือ นายสิทธิศักดิ์ หรือดิ่ง ส่วนนายดิว น้องชายไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งที่เพื่อนผู้ตายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เป็นพยานให้การตรงกันว่านายดิว เป็นคนชกต่อย และใช้ขวดขว้างใส่นายตะวัน ก่อนที่นายดิ่ง พี่ชาย จะใช้มีดแทงจนเสียชีวิต ทำให้น้องชายซึ่งร่วมก่อเหตุด้วยลอยนวลไม่ถูกดำเนินคดี

ทั้งนี้ยังพยายามลงในสำนวนว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาทย์ โดยมีขวดเป็นอาวุธ ทั้งที่พฤติการณ์ผู้ก่อเหตุทั้งสองมีเจตนาฆ่า ที่สำคัญยังไม่มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุและอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ไปประกอบในสำนวนคดีด้วย
พ.ต.อ.สมภพ   สังข์กรทอง  ผกก.สภ.นางรอง
จากการทำสำนวนคดีที่บิดเบือน ทำให้นายสิทธิศักดิ์ หรือดิ่ง ผู้เป็นพี่ชายที่ถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียวในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธ(มีด)เข้าไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งขณะนี้นายดิ่ง ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ และยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งทางครอบครัวได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี โดยล่าสุดศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 33 ปี 4 เดือน

หลังจากทางครอบครัวได้เดินหน้าติดตามคดี ทั้งพยายามหาหลักฐานด้วยตัวเองมาโดยตลอด จนล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการนำหมายศาลไปจับกุมตัวนายจักรกฤษ หรือดิว แล้ว แต่ถูกแจ้งในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น” ซึ่งเป็นการทำร้ายเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มของลูกชายในวันเกิดเหตุ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับคดีที่ร่วมกันฆ่านายตะลูกชาย จึงสร้างความคลางแคลงใจให้กับครอบครัว

นางควดี แม่นายตะวัน ที่ถูกแทงเสียชีวิต จึงได้เรียกร้องให้ทางผู้กำกับการ สภ.นางรอง ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ว่าดำเนินการถูกต้องตรงไปตรงมาหรือไม่ เพราะมีข้อมูลหลายๆ อย่างที่ถูกบิดเบือน จึงอยากให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวใหม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย และอยากให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวด้วย

ด้าน พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.นางรอง กล่าวว่า หลังจากทางแม่ผู้เสียชีวิต ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำคดีที่ลูกชายถูกทำร้ายเสียชีวิต พร้อมร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนใหม่ในการทำคดีด้วย ซึ่งเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้พร้อมจะทำการตั้งกรรมการสอบพนักงานสอบสวนคนดังกล่าว ว่าได้กระทำตามที่ถูกร้องเรียนหรือไม่ และจะพิจารณาเปลี่ยนพนักงานสอบสวนคนใหม่ตามที่ผู้เสียหายร้องขอ แต่หากผู้เสียหายังติดใจการทำคดีของตำรวจสามารถร้องต่ออัยการ หรือยื่นฟ้องในชั้นศาลเองได้ ส่วนทางตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย


ร้องรื้อคดีใหม่! ครูญี่ปุ่นและแม่ชาวบุรีรัมย์ติดใจคดีลูกชายถูกแทงตาย เชื่อ ตร.บิดเบือนสำนวน (ชมคลิป)
ร้องรื้อคดีใหม่! ครูญี่ปุ่นและแม่ชาวบุรีรัมย์ติดใจคดีลูกชายถูกแทงตาย เชื่อ ตร.บิดเบือนสำนวน (ชมคลิป)
บุรีรัมย์- ครูชาวญี่ปุ่นพร้อมแม่และเพื่อนเยาวชนวัย 17 ปีชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูก 2 พี่น้องใช้ขวดขว้างและมีดแทงเสียชีวิตหน้าร้านอาหารเมื่อปีที่ผ่านมา ร้องรื้อฟื้นคดีใหม่หลังติดใจการทำสำนวนคดีของตร.ตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งการแจ้งข้อหากล่าวเพียงคนเดียวทั้งที่สองพี่น้องร่วมกันก่อเหตุ 2 คน ไม่นำภาพวงจรปิดและอาวุธมีดของกลางมาประกอบสำนวน ซ้ำใส่ชื่อเพื่อนผู้ก่อเหตุเป็นพยานฝ่ายโจทก์ ทำสำนวนบินเบือนหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น