MGR Online - นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สาวเหยื่อบิ๊กดีเอสไอมั่นใจกองปราบทำคดี ยันฝ่ายตนไม่เคยยินยอม แต่ถูกข่มขู่บังคับขืนใจถ่ายรูปแบล็กเมล์ขู่ลงโซเชียลมาตลอด
์
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายเอ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล ) อายุ 48 ปี พา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 38 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลานสาว พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกเจ้าหน้าที่ระดับ ซี 9 สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมทั้งข่มขู่จะนำภาพลับไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองปราบปราม เจ้าของคดี ว่า จะสรุปสำนวนในส่วนคดีที่ผู้เสียหายมาแจ้งความทั้งหมด ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ดำเนินการต่อไป
ด้าน นายเอ ญาติผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากหลานสาวซึ่งเป็นผู้เสียหายให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม พร้อมมอบหลักฐานที่เป็นทั้งข้อความแชตผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ในลักษณะที่นัดเจอ และข่มขู่ พร้อมทั้งรูปถ่ายที่ทางฝ่ายตรงข้ามนำไปแบล็กเมล์แล้ว ทราบว่า ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกคู่กรณีมาให้ปากคำต่อไป
ญาติคนดังกล่าว กล่าวต่อว่า ครอบครัวตนขอยืนยันว่า เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นจริง มีการข่มขู่ และบังคับขืนใจจริง และที่ผ่านมา หลานสาวเครียด และเกรงกลัวมาก เพราะคู่กรณีมีอำนาจและเป็นที่รู้จัก ทั้งยังคอยตามก่อกวน รังควาน กระทั่งล่าสุดมีการร้องศาลเพื่อดำเนินคดีกับพวกเราในข้อหาชู้สาว ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงอีก โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ตัดสินว่าหลานสาวตนมีความผิดจริง ซึ่งทางคู่กรณีได้นำหลักฐานที่เป็นภาพจากกล้องมือถือที่บังคับให้หลานสาวถ่ายคู่ด้วย ประกอบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุอื่นๆ ที่ได้มาโดยมิชอบ ทางตนจึงกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลในชั้นฎีกาเพิ่มเติม
นายเอ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาก หลังเมื่อวานทางดีเอสไอออกมายืนยันว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงยุติธรรม และมีการตั้งคณะกรรมสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว แสดงให้เห็นว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก และหวังว่าทางกองปราบเองจะสามารถช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้ครอบครัวได้
รายงานข่าวระบุว่า ทางผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีไว้ที่ สภ.พัทยา จ.ชลบุรี ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและบังคับขู่เข็ญข่มขืนใจ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำสำนวนสรุปสั่งไม่ฟ้องส่งให้อัยการ ศาลจังหวัดพัทยาแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ