xs
xsm
sm
md
lg

ร้องรื้อคดีใหม่! ครูญี่ปุ่นและแม่ชาวบุรีรัมย์ติดใจคดีลูกชายถูกแทงตาย เชื่อ ตร.บิดเบือนสำนวน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ครูชาวญี่ปุ่นพร้อมแม่และเพื่อนเยาวชนวัย 17 ปีชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ที่ถูก 2 พี่น้องใช้ขวดขว้างและมีดแทงเสียชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา ร้องรื้อฟื้นคดีใหม่หลังติดใจการทำสำนวนคดีของตำรวจ วันนี้ ( 28 ก.ค.)
บุรีรัมย์- ครูชาวญี่ปุ่น พร้อมแม่และเพื่อนเยาวชนวัย 17 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูก 2 พี่น้องใช้ขวดขว้าง และมีดแทงเสียชีวิตหน้าร้านอาหารเมื่อปีที่ผ่านมา ร้องรื้อฟื้นคดีใหม่หลังติดใจการทำสำนวนคดีของ ตร.ตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งการแจ้งข้อหากล่าวเพียงคนเดียว ทั้งที่สองพี่น้องร่วมกันก่อเหตุ 2 คน ไม่นำภาพวงจรปิด และอาวุธมีดของกลางมาประกอบสำนวน ซ้ำใส่ชื่อเพื่อนผู้ก่อเหตุเป็นพยานฝ่ายโจทก์ ทำสำนวนบิดเบือน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม


นางควดี ทะเคะอุจิ  แม่ผู้เสียชีวิต และ นายฮิโรอะคิ คิตะมุระ  ครูประจำชั้น ชาวญี่ปุ่น
วันนี้ (28 ก.ค.) นายฮิโรอะคิ คิตะมุระ ชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้น ม.5 ของ นายเจตริน อำพันทอง หรือตะวัน อายุ 17 ปี ที่เรียนอยู่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย นางควดี ทะเคะอุจิ อายุ 46 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แม่นายเจตริน และเพื่อนๆ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ นายเจตริน หรือตะวัน หลังจากได้ถูก นายสิทธิศักดิ์ สวัสดิพูน หรือดิ่ง อายุ 33 ปี และนายจักรกฤษ หรือดิว สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกชายของอดีตข้าราชการครู ร่วมกันทำร้ายร่างกายทั้งชกต่อย ใช้ขวดขว้างปา และอาวุธมีดที่พกติดตัวมาด้วยแทงกลางหน้าอกจนเสียชีวิตคาที่ บริเวณหน้าร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 21 ส.ค.59
ผู้เสียชีวิต
พร้อมเรียกร้องให้มีการรื้อฟื้นคดีใหม่ เพราะทางครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมถึงเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ยังติดใจในการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่เริ่มต้น เพราะมีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการแจ้งข้อหากล่าวหาผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว คือนายสิทธิศักดิ์ หรือดิ่ง ส่วนนายดิว น้องชายไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเลย ทั้งที่เพื่อนผู้ตายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เป็นพยานให้การตรงกันว่า นายดิว เป็นคนชกต่อย และใช้ขวดขว้างใส่นายตะวัน ก่อนที่นายดิ่ง พี่ชายจะใช้มีดแทงนายตะวัน จนเสียชีวิต

พอทางครอบครัวผู้ตายเกิดความสงสัย มาติดต่อสอบถามเรื่องคดีก็อ้างโน่นอ้างนี่ อีกทั้งตอนแรกพยายามจะลงในสำนวนว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาท โดยมีขวดเป็นอาวุธ ทั้งที่พฤติการณ์ผู้ก่อเหตุทั้งสองมีเจตนาฆ่า ที่สำคัญยังไม่มีการนำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ รวมถึงอาวุธที่ใช้ก่อเหตุประกอบในสำนวนคดีด้วย

และยิ่งสร้างความคลางแคลงใจให้แก่ครอบครัวผู้ตาย คือ มีชื่อของเพื่อนผู้ก่อเหตุ หรือเพื่อนฝ่ายจำเลย ลงเป็นพยานของฝ่ายโจทก์ด้วย จากการกระทำดังกล่าวส่อถึงความไม่ตรงไปตรงมาในการทำคดีของตำรวจ จึงอยากเรียกร้องให้มีการรื้อฟื้นคดีใหม่เพื่อความเป็นธรรมต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

นายวุฒิ (นามสมมติ) เพื่อนผู้ตายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า คืนวันเกิดเหตุได้นัดเพื่อนมาเลี้ยงส่งตะวัน ก่อนที่จะเดินทางกลับไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น แต่พอมาถึงร้านอาหารที่เกิดเหตุทั้งสองพี่น้องมาหาเรื่องตะวัน โดยหาว่าตะวัน ไปมองหน้าจึงเกิดความไม่พอใจ จากนั้น นายดิว ผู้เป็นน้องได้เข้ามาชกต่อย ตะวัน แล้วใช้ขวดขว้างใส่ ก่อนที่นายดิ่ง ผู้เป็นพี่จะใช้มีดจ้วงแทงตะวัน 1 ครั้ง ทั้งพยายามจะเข้ามาแทงซ้ำอีก แต่พวกตนห้ามไว้ ก่อนทั้งสองจะขับรถหลบหนี ส่วนตะวัน ล้มลงเสียชีวิตที่หน้าร้านอาหาร

หลังเกิดเหตุตำรวจได้เรียกพวกตนซึ่งเป็นพยานไปสอบสวน ให้การตรงกันว่า ทั้งสองพี่น้องเจตนาฆ่า แต่พนักงานสอบสวนพยามยามลงเป็นเหตุทะเลาะวิวาท พวกตนจึงโต้แย้ง เมื่อทราบว่ามีการจับกุมผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว รู้สึกไม่สบายใจทั้งเกรงจะเป็นอันตราย แต่ยืนยันว่าจะเป็นพยาน และเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ ตะวัน จนถึงที่สุด

นางควดี ทะเคะอุจิ แม่น้องตะวัน ที่ถูกแทงเสียชีวิต บอกว่า ทางครอบครัวยังติดใจในการทำสำนวนคดีของตำรวจตั้งแต่เริ่มต้น เพราะข้อมูลหลายๆ อย่างถูกบิดเบือน จึงอยากเรียกร้องให้มีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ให้มีความตรงไปตรงมา และให้เกิดความเป็นธรรมต่อครอบครัวของตนเอง และลูกชายที่เสียชีวิตด้วย เพราะนอกจากตนเองจะต้องสูญเสียลูกชายทั้งคนแล้ว ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องคดีอีก ซึ่งตามข้อมูลหลักฐานน่าจะเป็นการร่วมกันกระทำผิด จึงอยากให้ลงโทษตามกฎหมายทั้งสองคนเพื่อชดใช้ต่อสิ่งกระทำ

และที่กังวลใจอีกอย่างคือ กรณี นายดิ่ง ผู้เป็นพี่ชายที่ถูกจับกุม และแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาอาวุธ (มีด) เข้าไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งถูกควบคุมตัวตัวอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่ง ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และมีการต่อสู้คดีชั้นศาล โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 33 ปี 4 เดือน ทางครอบครัวผู้ก่อเหตุจึงยื่นศาลอุทธรณ์ขอให้ลดโทษเป็นสถานเบา ดังนั้น ทางครอบครัวตนเองจึงได้ยื่นอุทธรณ์ไม่ให้มีการลดโทษ พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วย

นายฮิโรอะคิ คิตะมุระ ครูชาวญี่ปุ่นบอกว่า ได้ติดต่อสอบถามเรื่องคดีของน้องตะวัน กับผู้เป็นแม่มาตลอด เพราะตะวันเป็นลูกศิษย์ที่นิสัยดี ทั้งครู และเพื่อนที่ญี่ปุ่นต่างก็รักเขา ในฐานะที่เป็นครูแม้อยู่ไกลถึงประเทศญี่ปุ่น ก็อยากมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ลูกศิษย์ และหากมีอะไรสามารถช่วยได้เกี่ยวกับเรื่องคดีพร้อมให้ความร่วมมือ
กำลังโหลดความคิดเห็น