ประจวบคีรีขันธ์ - สมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุน ประจวบ-มะริด นำนักธุรกิจไทย 70 ราย ดูโครงการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันตกประจวบฯ-มะริด สานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง ส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบัน มีการพัฒนาด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตของเมืองมะริด ทั้งอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ เส้นทางการคมนามคมย่างกุ้ง-ทวายมะริด-ตะนาวศรี-บ้านมอด่อง-ด่านสิงขร และการท่องเที่ยว
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุนประจวบ-มะริด เผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ทางสมาคมฯ ได้จัดโครงการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันตกประจวบฯ-มะริด โดยนำนักธุรกิจจากภาคเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจท่องเที่ยว โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลประจวบฯ โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน เดินทางไปดูการพัฒนาของเมืองมะริด เมียนมา พร้อมกลับมีการประชุมร่วมกันระหว่างภาครัฐของเมืองมะริด ภาคเอกชนของเมืองมะริด ร่วมประชุมกับทางภาคเอกชนที่เดินทางไปในครั้งนี้ ที่โรงแรมแกรนด์เจด และการเจรจาธุรกิจทั้งภาคเอกชนเมะริด และนักธุรกิจไทยที่ร่วมเดินทางไปถึง 70 คน
โดยแบ่งกลุ่มเจรจาธุรกิจทั้งกิจการประมงและค้าอาหารทะเล สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งภายใน กิจการเกษตรและสินค้าทางการเกษตร กิจการอุตสาหกรรมและเอสเอ็มอี สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเครื่องสำอางและอาหารเสริม เวชภัณฑ์และการรักษาสุขภาพ การบริการด้านการศึกษาและความร่วมมือ และกิจการด้านท่องเที่ยว และอื่นๆ
นอกจากนั้นแล้ว ยังได้พานักธุรกิจเดินทางไปดูการพัฒนาของเมืองมะริด ทั้งสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใหม่ ท่าเทียบเรือประมงสำหรับใช้การประมูลปลาแบบครบวงจร มูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ท่าเทียบเรือขนถ่านสินค้าสมัยอังกฤษ อู่ต่อเรือ โรงงานแปรรูปไม้ส่งออกประเทศญี่ปุ่น โรงพยาบาลของเอกชน ศูนย์การค้า ตลาดมะริด และโครงการพัฒนาคอนโดระหว่างนักธุรกิจจีนกับมะริด พร้อมเยี่ยมชมวัดเก่าแก่ต่างๆ ในเมืองมะริด ตลอดจนเส้นทางการคมนาคม ซึ่งในปัจจุบันนี้เมืองมะริดมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
พบว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เมืองมะริด มีการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมประมงและการท่องเที่ยว รวมไปถึงระบบการคมนาคม ซึ่งขณะนี้เส้นทางจากเมืองมะริด-ตะนาวศรี-บ้านทรายขาว ได้เสร็จแล้ว ขณะนี้เหลือระยะทางจากบ้านทรายขาว-บ้านมูด่อง เมียนมา ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ซึ่งทางหอการค้าของเมืองมะริด ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนของไทยดำเนินการ คาดจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ นอกจากนั้น ทางรัฐบาลของเมียนมา ยังเริ่มดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำตะนาวศรีขึ้นใหม่เพื่อให้รถยนต์สวนกันได้แทนสะพานเก่าที่รถไม่สามารถวิ่งสวนกันได้ ใน
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดการพัฒนาของเมืองมะริดเพื่อรองรับความเจริญ และการเชื่อมต่อจากการเดินทางจากเมืองย่างกุ้ง-ทวาย-เมืองมะริด-เมืองตะนาวศรี-ปกเปี้ยน-บ้านมอด่อง-ด่านสิงขรฝั่งไทย ทั้งนี้ ทางภาคเอกชน และภาครัฐของเมืองมะริดเองอยากได้ความร่วมมือทางการแพทย์ โดยอยากส่งบุคลากรมาศึกษาดูงานการแพทย์ การสาธารณสุข รวมไปถึงด้านการศึกษา และภาคการเกษตร
นายอูลาทั่น ประธานหอการค้า สภาอุตสาหกรรมเมืองมะริด กล่าวว่า “เมืองมะริด” ถือเป็นเมืองท่าทางด้านอุตสาหกรรมประมงสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมียนมา สามารถผลิตสัตว์น้ำได้ถึง 1.34 แสนตันต่อปี มีการส่งออกมูลค่ารวมถึง 1.85 หมื่นล้านบาท และยังเป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบที่สำคัญของไทยกว่าร้อยละ 80 โดยสัตว์น้ำส่วนใหญ่ขณะนี้ส่งออกจากเมืองมะริด-ไปขึ้นที่ระนองและขนถ่ายเข้าสู่มหาชัย และนำแปรรูปส่งเข้าไปยังกรุงเทพฯ
ในปัจจุบัน มีเพียงส่วนหนึ่งที่นำออกจากทางด่านสิงขร แล้วในขณะนี้มีทั้ง ปูดำ กั้ง ปลาหมึก กุ้งมังกร และปลาบางชนิด ส่งไปทั้งภาคตะวันออก ภูเก็ต มหาชัย โดยคาดว่าหากเส้นทางจากเมืองมะริด-ตะนาวศรี-บ้านมอด่อง-ด่านสิงขร แล้วเสร็จในระยะสุดท้ายในช่วงเดือนธันวาคม 2561 จะทำให้การขนถ่ายสัตว์น้ำย้ายจากระนอง ส่วนหนึ่งมาออกทางด่านสิงขร ซึ่งจะรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ทั้งหมดนี้อยากฝากให้ให้รัฐบาลไทยพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษเป็นด่านถาวร เนื่องจากในส่วนของบ้านมอด่อง นั้นเมียนมาเปิดเป็นด่านถาวรมาหลายปีแล้ว
นายวีระ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในการพานักธุรกิจไปเมืองมะริดที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ร่วมคณะได้ศึกษาดูงานด้านสภาพภูมิประเทศ เส้นทางคมนาคม และการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ ตลอดจนพบปะเจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจของเมืองมะริดโดยตรง เพื่อเป็นข้อมูลที่จะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนในเมืองมะริดต่อไป โดยพบว่า ข้อมูลสถานการณ์การค้าชายแดน ด่านสิงขรรอบ 9 เดือนของปี 2560 จำนวน 323.12 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 168.4 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559
ด้าน นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนในจังหวัดประจวบฯ ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เป็นด่านถาวรเพื่อเปิดประตูการค้าชายแดนด้านประจวบฯ เชื่อมกับเมืองมะริด เพราะหากเปิดเป็นด่านถาวรก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ เพียงแต่ตอนนี้ติดขัดในเรื่องของการที่ฝังไทยยังไม่เปิดเป็นด่านถาวรถึงแม้ทางฝั่งเมียนมา จะเปิดเป็นด่านถาวรมานานแล้วก็ตาม แต่ยอมรับว่าเมืองมะริด มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆ โดยพบว่า ข้อมูลสถานการณ์การค้าชายแดน ด่านสิงขรรอบ 9 เดือนของปี 2560 จำนวน 323.12 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 168.4 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559
เช่นเดียวกับนักธุรกิจที่เดินทางไปศึกษาดูลู่ทางการลงทุนที่เมืองมะริด หลายรายกล่าวว่า ยอมรับในศักยภาพด้านการประมงที่มีวัตถุดิบด้านสัตว์น้ำ และการท่องเที่ยวที่กำลังเจริญเติบโต เนื่องจากมีทั้งชาวไทยเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวที่เมืองดังกล่าวมากขึ้น จึงสมควรที่รัฐบาลไทยควรจะมีการพิจารณายกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรเป็นด่านถาวร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวต่อไป
ปัจจุบัน จากข้อมูลพบเมืองมะริดกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ และชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปจากไทย ตลอดจนนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ที่เดินทางทางสายการบินจากย่างกุ้ง-ทวาย-เมืองมะริด-เกาะสอง ยอมรับว่า เมืองมะริดในปัจจุบันเริ่มเจริญอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ธนาคาร และการคมนาคม ซึ่งมีทั้งรถบัสขนาดใหญ่และรถตู้โดยสารปรับอากาศเหมือนฝั่งไทย
โดยเฉพาะธุรกิจรถจักรยานยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูง ซึ่งเมืองมะริด มีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ถึง 1 แสน 5 หมื่นคัน จากประชากรกว่า 4 แสนคนในปัจจุบัน ที่มีการนำเข้ารถจักรยานยนต์ผ่านออกทางด่านแม่สอด มาถึงเมืองมะริด แต่ในปัจจุบันพบว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ของประเทศเวียดนามกำลังเข้ามาทำตลาดในเมืองมะริด เนื่องจากมีราคาถูกกว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าที่ผลิตในเมืองไทยกว่า 2 หมื่นบาท และธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อรถจักรยานยนต์ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเครื่อง และอุปกรณ์ตกแต่งเริ่มมีการลงทุนต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
แต่ทั้งหมดนักธุรกิจที่เดินทางไปในครั้งนี้มองว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลไทยจะมีการยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ขึ้นเป็นด่านถาวร ส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า แต่สำหรับการค้าชายชายแดนทางด่านสิงขร-เมืองมะริด กำลังเจริญเติบโต