สุรินทร์ - ไม่รอดสายตา เจ้าหน้าที่ประจำด่านถาวรช่องจอมรวบหนุ่มเขมรขณะเข็นรถบรรทุกมะพร้าว แต่แอบซุกไม้พะยูง 32 ท่อน ตบตาเจ้าหน้าที่ หวังข้ามด่านถาวรช่องจอมไปฝั่งประเทศกัมพูชา แต่ไม่รอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ก.พ.) นายประสงค์ เพริศพริ้ง นายด่านศุลกากรช่องจอม พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันตรวจค้นจับกุม Mr. BUNNA TUY ซื่อตามบอร์เดอร์พาส อายุ 21 ปี ชาวกัมพูชา ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงรถเข็นลากบรรทุกผลมะพร้าว และได้แอบซุกซ่อนไม้พะยูงหวงห้ามเอาไว้ด้านล่างผลมะพร้าวสด จำนวน 32 ท่อน ปริมาตร 0.207 ลบ.ม.
ทั้งนี้เพื่อข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา ขณะขับรถมาถึงด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นสิ่งของบรรทุกไว้ในรถตามปกติ และได้พบของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว
ต่อมาชุดจับกุมทั้งหมดได้มอบหมายให้นายสดับ วัฒนเสถียร นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และนายสำเรียบ ศักดิ์ศิริ หัวหน้าฝ่ายสงวนและปราบปราม เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง โดยตั้งข้อกล่าวหา ฐานส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรอันเป็นความผิดตามมาตรา 242 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบกับมาตรา 252 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 เป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166, 167 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่ง Mr. BUNNA TUY ผู้ต้องหา รับเป็นเจ้าของเองทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การก่อเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ช่วงนี้พบว่าแก๊งตัดไม้พะยูงได้พยายามใช้ทุกวิธีการ ทั้งแอบลักลอบตัดในพื้นที่ป่าชายแดนไทย-กัมพูชา รวมไปถึงในพื้นที่ของชาวบ้าน วัด และโรงเรียนด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่างติดตามเกาะติดสถานการณ์การลักลอบตัดไม้พะยูงและการลับลอบขนไม้พะยูงออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านกันอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดพบใช้รถจักรยานยนต์พ่วงรถเข็นลากบรรทุกไม้พะยูงมากับผลมะพร้าวสดดังกล่าว