xs
xsm
sm
md
lg

เป็นเรื่อง! พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาลุกฮือโวยสื่อไทยพาดหัวด่า “เขมรสุดกร่าง” ชี้ดูหมิ่น จี้รับผิดชอบขอโทษ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม  อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์  ลุกฮือโวยสื่อไทยบางสำนักพาดหัวข่าวไม่เหมาะสม ด่า “เขมรสุดกร่าง” ชี้ดูหมิ่นกระทบจิตใจชาวกัมพูชา ยื่นหนังสือร้องสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชาและหน่วยงานรัฐไทย วันนี้ ( 4 ส.ค.)
สุรินทร์- เป็นเรื่อง พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชา ตลาดชายแดนช่องจอมสุรินทร์ลุกฮือ โวยสื่อไทยบางสำนักพาดหัวข่าวไม่เหมาะสม ด่า “เขมรสุดกร่าง” ชี้ดูหมิ่นกระทบจิตใจชาวกัมพูชา บุกยื่นร้องสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา และหน่วยงานรัฐไทย จี้สำนักข่าวรับผิดชอบขอโทษชาวกัมพูชา ก่อนลามเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ด้านผู้ว่าฯ สุรินทร์ เต้น สั่ง นอภ.กาบเชิง ลงพื้นที่ทำความเข้าใจด่วน หวั่นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว


พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมผ่าน นายพัฒนา ชื่นยงค์ ผู้จัดการอาวุโสตลาดการค้าชายแดนช่องจอม
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่บริเวณประตูทางเข้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ประกอบการค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม กว่า 100 คน นำโดย นายอ๊ก บุญเฮง กำนัน ต.โอรเสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย นายชัย เฮง และนายเนตร ซึ่งเป็นตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา ร่วมกันยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมผ่าน นายพัฒนา ชื่นยงค์ ผู้จัดการอาวุโสตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เพื่อยื่นต่อสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ เพื่อให้สมาคมฯ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของไทยเป็นตัวแทนช่วยดำเนินการเรียกร้องให้สื่อมวลชนไทยสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษ กรณีที่สำนักข่าวนำเสนอข่าวการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และสื่อออนไลน์ ด้วยการพาดหัวข่าวที่ใช้คำไม่เหมาะสม ว่า “เขมรสุดกร่าง” ทำให้บรรดาชาวกัมพูชาจำนวนมากออกมาต่อต้านคัดค้าน และประณามการนำเสนอข่าวเชิงลบแบบดังกล่าว พร้อมชูป้ายข้อความแสดงความไม่พอใจ

โดยชาวกัมพูชาต่างยืนยันว่า ชาวกัมพูชาทุกคนทำมาหากินสุจริต ขอให้แยกแยะ และกระแสความไม่พอใจสื่อของไทยดังกล่าวกำลังกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย ทั้งในฝั่งไทย และกัมพูชา ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ชายแดน และความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศขึ้นมาได้


ทั้งนี้ ใจความสำคัญในหนังสือระบุว่า กรณีที่มีสื่อมวลชนไทยบางสำนักข่าวพาดหัวข่าวที่ใช้คำว่า “เขมรสุดกร่าง” ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ และความรู้สึกเสมือนดูหมิ่นชาวกัมพูชาที่มาทำมาหากิน และค้าขายในผืนแผ่นดินไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ภายในตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาแห่งนี้ ต่างประกอบอาชีพค้าขายกันอย่างสุจริตมายาวนานหลายสิบปี และเคารพกฎหมายของประเทศไทยมาโดยตลอด มีเอกสารผ่านแดนที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกคน ไม่เคยประพฤติตัว และแสดงพฤติกรรมกร่าง หรือไม่เหมาะสมอย่างที่สื่อมวลชนดังกล่าวระบุ

และที่ผ่านมา ไม่เคยพบว่าสื่อมวลชนใช้คำที่ไม่เหมาะสมในลักษณะดังกล่าวมาก่อน ทำให้ชาวกัมพูชารับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงต้องการให้สมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา และหน่วยงานภาครัฐของทางการไทยที่เกี่ยวข้อง ช่วยดำเนินการเรียกร้องให้สำนักข่าวดังกล่าวที่นำเสนอข่าวอย่างไร้จรรยาบรรณ ไม่คำนึงถึงผลกระทบภาพรวมในวงกว้าง ออกมาแสดงความรับผิดชอบและขอโทษชาวกัมพูชาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเหตุการณ์ที่ชาวกัมพูชาไม่พอใจ และรวมตัวยื่นหนังสือดังกล่าว เกิดขึ้นจากกรณีที่สำนักข่าวบางแห่งนำเสนอข่าวการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และใช้คำที่ไม่เหมาะสม จนมีผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวกัมพูชาดังกล่าว โดยพาดหัวข่าว ว่า “เกลื่อนตลาดช่องจอม!! เขมรสุดกร่างขายสินค้าแบรนด์เนม โจ่งครึ่มไม่เกรงกลัวลิขสิทธิ์ ราคาหลักแสน แต่เป็นเจ้าของได้ในราคาหลักร้อย (มีคลิป)” และอีกสำนักข่าวพาดหัวข่าวว่า “เขมรขาย “แบรนด์เนมปลอม” โจ่งครึ่ม เกลื่อนตลาดช่องจอม เขมรสุดกร่างขายสินค้าแบรนด์เนมปลอมเกลื่อนตลาดช่องจอม ไม่เกรงกลัวลิขสิทธิ์ ราคาหลักแสน แต่เป็นเจ้าของได้ในราคาหลักร้อย” ตามลิงก์ที่แนบนี้ http://www.tnews.co.th/contents/342301 และ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/766708


ทางด้าน นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หลังทราบเรื่องดังกล่าวได้มีคำสั่งให้นายประภาส ศรีจันทร์เวียง นายอำเภอกาบเชิง ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาทันที โดยนายอำเภอกาบเชิง ได้หารือและทำความเข้าใจต่อ นายอ๊ก บุณเฮง กำนันบ้านโอร์เสม็ด กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ทันที พร้อมกล่าวขออภัย และรับปากจะรีบสร้างความเข้าใจ ทำหนังสือยื่นไปยังต้นสังกัดของสื่อสำนักดังกล่าว พร้อมกันนี้ ได้ทำความเข้าใจว่า อำเภอกาบเชิง และจังหวัดสุรินทร์ มีความสัมพันธ์ด้านการค้า การท่องเที่ยว ตลอดจนทางการแพทย์ของทั้ง 2 ประเทศมาโดยตลอด ความไม่เข้าใจ หรือบาดหมางครั้งนี้จะรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว ไม่อยากให้มาบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างกันเพียงเพราะน้ำผึ้งหยดเดียว

ขณะที่ตัวแทนชาวกัมพูชาอีกกลุ่มได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ตำรวจ สภ.กาบเชิง เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ในเบื้องต้นแล้ว

สำหรับบรรยากาศภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม พบว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ส่วนใหญ่ขายสินค้ามือสองต่างปิดร้านจำนวนมาก เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะมาจับกุมสินค้า หลังมีการนำเสนอข่าว โดยส่วนใหญ่ที่ปิดร้านเพราะไม่ทราบว่าสินค้ามือสองของตนเองที่จำหน่ายอยู่นั้นเป็นสินค้าที่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ทำให้บรรยากาศภายในตลาดเงียบเหงาไปถนัดตา

นายเนตร ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา กล่าวว่า พวกตนหากินเช้าเย็นกลับ ทำตามระเบียบถูกต้อง เห็นข่าวออกมาว่าเขมรกร่าง มันดูไม่ดี ออกข่าวมาแบบนี้ทำให้ขายของไม่ได้ ลูกค้าไม่มี หากินไม่ได้ พวกตนไม่ได้กร่างแค่มาทำมาหากินเฉยๆ พวกเราเคารพกฎหมายทุกอย่าง แต่เขาเขียนมาแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ขอให้ช่วยดูด้วยครับ

นางสิโวน บัน กล่าวว่า พวกเรามาขายของที่นี่ไม่ได้มาทำผิดกฎหมาย เขาสั่งให้ทำอะไรเราทำตามทุกอย่าง มีทั้งบอร์เดอร์พาส และบัตรต่างด้าวให้ด้วย แล้วเขามาพูดแบบนี้มันดูถูกกันมาก เสียใจมากไม่อยากให้เขามาว่าแบบนี้กับชาวกัมพูชา ตอนนี้การค้าขายก็ลำบาก

ด้าน นายอ็ก บุญเฮง กำนันตำบลโอร์เสม็ด ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งได้พบปะกับนายอำเภอกาบเชิง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า มีการกล่าวหาคนกัมพูชาไม่ดี เป็นเขมรกร่าง ซึ่งชาวกัมพูชาเองก็มีทั้งคนดี และไม่ดี ซึ่งคนดีมีมากกว่า ก็ไม่สบายใจที่มีการเหมารวมหมด โดยเฉพาะการใช้คำ ซึ่งเขาใช้คำว่าเขมรกร่าง เป็นคำที่กระทบจิตใจชาวกัมพูชา รวมทั้งคำว่า เขมร ควรต้องใช้คำว่า กัมพูชา ที่ผ่านมาชาวกัมพูชาเองขอขอบคุณทางหน่วยงานรัฐของไทย รัฐบาลไทยที่ได้อนุญาตให้ชาวกัมพูชาเข้ามาทำมาหากิน และไม่คิดจะไปที่ไหน ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก
นายประภาส  ศรีจันทร์เวียง  นายอำเภอกาบเชิง  ลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาทันที  หารือและทำความเข้าใจกับ นายอ๊ก บุณเฮง กำนันบ้านโอร์เสม็ด กรุงสำโรง  จ.อุดรมีชัย
นายพัฒนา ชื่นยงค์ ผู้จัดการอาวุโสตลาดการค้าชายแดนช่องจอม กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากตัวแทนชาวกัมพูชา ว่า ชาวกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบได้ร้องมา ซึ่งจะนำเสนอไปยังผู้มีอำนาจ และผู้หลักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะทางสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพราะทางสมาคมฯ นั้นมีความใกล้ชิดกับทางกัมพูชามากที่สุด ซึ่งทางเราเองรู้สึกไม่สบายที่เกิดเรื่องกรณีเช่นนี้ เพราะสื่อมวลชนที่เสนอข่าวออกไปอาจไม่ได้พิจารณา โดยเฉพาะการใช้คำว่า “เขมรกร่าง” ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำให้ชาวกัมพูชาเกิดความไม่สบายใจ และกระทบต่อการค้าขายชายแดนซบเซา ซึ่งอนาคตจะก้าวไปเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ก็น่าเสียดาย อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นได้คลี่คลายลงโดยเร็ว

จากชายแดนที่เคยเป็นสนามรบได้เปลี่ยนมาเป็นสนามการค้า ชาวกัมพูชาทำมาค้าขายกับคนไทยอย่างปกติสุข อยู่กันแบบบ้านพี่เมืองน้องมายาวนาน แต่สื่อมวลชนสำนักดังกล่าวกลับใช้คำที่ไม่เหมาะสม และกระทบกระเทือนต่อสภาพจิตใจของชาวกัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างคนไทย และกัมพูชาที่มีต่อกันมาอย่างยาวนาน และอาจลุกลามส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องของความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

ส่วนกรณีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจจับกุม และดำเนินคดีชาวกัมพูชาที่ลักลอบขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่องโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนตลาดการค้าชายแดนช่องจอมไม่ได้นิ่งดูดาย มีการการกวดขัน และประชาสัมพันธ์กับผู้ค้าภายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมมาอย่างต่อเนื่อง ว่า ห้ามจำหน่าย และไม่สนับสนุนให้มีการค้าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์

ทั้งนี้ เพราะทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชาในพื้นที่ ต่างต้องการผลักดันให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่แล้ว หรืออาจมีผู้ไม่หวังดีก็ตาม ก็อยากให้คำนึงถึงเศรษฐกิจส่วนรวมด้วย เพราะทำให้การค้าชายแดนซบเซาและได้รับผลกระทบอย่างยิ่ง สวนทางต่อนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและผลักดันเรื่องการค้าการลงทุนชายแดน โดยเฉพาะ จ.สุรินทร์เอง มีนโยบายให้ จ.สุรินทร์ และ จ.อุดรมีชัย เป็นเมืองคู่มิตรกัน ตามยุทธศาสตร์ของจังหวัด และเป็นประตูด่านที่สำคัญของชายแดนอีสานใต้

กำลังโหลดความคิดเห็น