xs
xsm
sm
md
lg

เผยผลจัดคาราวานตามรอยอารยธรรมไทย-พม่า “ประจวบ-มะริด” ประสบผลสำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - สมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุน ประจวบ-มะริด เผยการจัดคาราวานตามรอยอารยธรรมประจวบ-มะริด 159 ระหว่างวันที่ 11-13 มี.ค.ที่ผ่านมา เส้นทางด่านสิงขร-มะริด ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านระหว่างเมืองชายแดนไทย-พม่า ประสบความสำเร็จ

วันนี้ (14 มี.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุน ประจวบ-มะริด อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางสมาคมส่งเสริมพัฒนา การค้า การลงทุน ประจวบ-มะริดได้จัดกิจกรรม “คาราวานตามรอยอารยธรรม ประจวบ-มะริด 159” ถือว่าประสบความสำเร็จ มีรถที่เข้าร่วมคาราวานรวมทั้งสิ้น 49 คัน และมีผู้เดินทาง 182 คน และยังมีผู้สนใจอีกจำนวนหนึ่งที่พลาดการเดินทางในครั้งนี้เนื่องจากทางสมาคมฯ รับเพียง 50 คันเท่านั้นเ พื่อสะดวกต่อการดูแล และการเดินทาง

กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมครั้งที่ 1 ของสมาคมส่งเสริมพัฒนาการค้า การลงทุน ประจวบ-มะริดจัดขึ้นเพื่อสานสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างประจวบคีรีขันธ์ กับเมืองมะริด พม่า และเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างเมืองชายแดน อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมส่งเสริมพัฒนา การค้า การลงทุน ประจวบ-มะริด ก็ยังคงที่จะพยายามที่จะร่วมผลักดันกับทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เพื่อเป็นด่านถาวรในอนาคตต่อไป

โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งหน่วยงานภาครัฐของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอย่างดี และภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งกิจกรรม และภาพรวมของจังหวัดมะริด และเมืองตะนาวศรี ทางสมาคมฯ จะรวบรวมข้อมูลเป็นเพื่อไว้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจการลงทุนที่มะริดต่อไป โดยจะมีการติดตามการพัฒนาของมะริด และตะนาวศรีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดต่อประสานข้อมูลกับภาคเอกชนที่เมืองมะริด

ด้าน นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้ร่วมคาราวานฯ ครั้งนี้ยอมรับด้วยว่า เส้นทางตั้งแต่มูด่อง-ตะนาวศรี บางช่วงยังคงเป็นถนนลูกรังอยู่บ้าง 30-45-กม.ซึ่งจากตะนาวศรี-ตัวเมืองมะริด ถนนถือว่าสะดวกสบายแล้วเพราะราดยางเทคอนรีต รวมทั้งในสภาพเมืองมะริด เริ่มมีความเจริญขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่สำคัญของหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่จะต้องรวบรวมเพื่อเป็นฐานข้อมูลให้แก่ภาคเอกชนของไทยที่สนใจการลงทุนที่เมืองมะริด โดยเฉพาะการขนส่งอุตสาหกรรมสัตว์น้ำจากเมืองมะริด-ด่านสิงขร

ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ เลขาธิการสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ หนึ่งในผู้ร่วมคาราวาน กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้ทำให้ได้ทราบข้อมูลว่า ภาคตะนาวศรี ประกอบไปด้วย ทวาย มะริด และเกาะสอง โดยจาการดูแผนที่ก็พบว่า มะริดนั้นอยู่ตรงข้ามกับเมืองหัวหิน แต่ไม่มีเส้นทางเชื่อโยงเนื่องจากถูกกั้นด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ลักษณะของเมืองมะริดคล้ายเมืองประจวบคีรีขันธ์ เน้นการประมง และเริ่มมีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและวัฒนธรรมมากขึ้น มีการนำเข้าสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศไทย

“ในปีนี้เมืองมะริดมีน้ำดื่มบรรจุขวดที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง แต้ยังคงมีอุปสรรคในเรื่องระบบไฟฟ้าและเทคโนโลยี แต่หากการเมืองของพม่าลงตัว การพัฒนาเศรษฐกิจจะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งครั้งนี้ยังได้ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากนักศึกษาของมหาวิทยาลัยในเมืองมะริด ซึ่งก็เป็นชุดการแสดงที่สวยงาม ก็ถือว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์ดีๆ”

นายประสิทธิ์ ปานนิมิตจิตสมาน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ได้ยินข่าวเมืองมะริดผ่านทางสื่อมวลชนมานาน และครั้งนี้ได้มีโอกาสร่วมเดินทางไป สิ่งที่ได้เห็นคือ เมืองมะริดกำลังซื้อยังคงน้อยอยู่ โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นที่ฐานยังไม่มีความพร้อม โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า รวมทั้งเรื่องคุณภาพชีวิต

ส่วนการลงทุนนั้นคงต้องรอดูด้วยว่า ถนนที่ยังไม่เสร็จจะมีการพัฒนาให้เสร็จเมื่อไหร่ รวมทั้งฝั่งไทยจะสามารถยกระดับเป็นด่านมาตรฐานสากลเมื่อไหร่ จุดนี้ผมว่านักธุรกิจไทยกำลังจับตามองอยู่ รวมไปถึงการพัฒนาสิ่งต่างๆ ของฝั่งไทยบริเวณด่านสิงขรด้วย แต่คาราวานฯ ครั้งนี้ก็ทำให้ผู้ที่เดินทางไปได้ทราบข้อมูล และถือเป็นประสบการณ์การเดินทางครั้งหนึ่งที่เดินทางออกทางจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของวัดวาอารามต่างๆ ของเมืองมะริด และเมืองตะนาวศรี

นายทวี นริศสิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมของภาคเอกชน และของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็เดินคู่ขนานร่วมกัน ซึ่งทางจังหวัดประจวบฯ ก็มีโครงการพัฒนาด่านสิงขรอยู่แล้ว ส่วนการยกระดับเป็นด่านถาวรก็เป็นเรื่องขั้นตอนต่างๆ ของทั้งรัฐบาลพม่า และของไทยที่ต้องดูในหลายๆ ด้านประกอบกัน ซึ่งหากเป็นด่านถาวรมั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวของทั้งไทย และพม่า แต่สิ่งหนึ่งก็คือ วันนี้จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ที่ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวอีกแห่งสำหรับเมืองชายแดน



กำลังโหลดความคิดเห็น