เชียงราย - นักอนุรักษ์หนุ่มแจ้งตำรวจจับคาหนังคาเขา 4 ชายฉกรรจ์ลอบตัดไม้พะยูงเหี้ยนเหลือแต่ตอ พอแจ้งข้อหากลับปฏิเสธ อ้างแค่รับจ้างนักการเมืองท้องถิ่นชักลาก-ไม่รู้เป็นไม้ผิดกฎหมาย แถมมีโทร.ลึกลับตามขอเคลียร์คดีอีก
วันนี้ (7 ก.พ.) พ.ต.ท.ชนะพงษ์ กันจินะ พนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานดำเนินคดีต่อนายผัด สีสันทราย อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 193/1 หมู่ 10 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน, นายอายา ผ่าวอ อายุ 46 ปี 337 หมู่ 10 ต.ป่าซาง, นายหล่อแย ยาแล อายุ 24 ปี 361 หมู่ 6 ต.ป่าซาง และนายอาก๋อง มาเยอะ อายุ 46 ปี 319 หมู่ 10 ต.ป่าซาง ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร
การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายโกมินทร์ เสือภูเขา อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 79/328 ม.22 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ที่ได้ชื่อเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ต้นพะยูงภายในสวนเนื้อที่ 34 ไร่ พื้นที่บ้านใหม่พัฒนา หมู่ 10 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จำนวน 37 ต้น ถูกตัดโค่น ตัดเป็นท่อนซุงเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 สภ.แม่จัน และพนักงานสอบสวน ไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งหมดกำลังชักลากไม้พะยูงขึ้นบรรทุกรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บล 7151 เชียงราย เจ้าหน้าที่พร้อมกับนายโกมินทร์จึงแสดงตัวเข้าไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน พร้อมของกลางไม้ที่ถูกตัดและชักลากเตรียมจะนำขึ้นรถ โดยแจ้งข้อหาเบื้องต้นว่าข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ปรากฏว่าทั้ง 4 คนกลับให้การปฏิเสธ โดยผู้ต้องหาให้การว่าไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของนายโกมินทร์ และยังไม่ทราบด้วยว่าเป็นไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมายด้วย พร้อมอ้างว่าเป็นเพียงคนรับจ้างจากชายคนหนึ่งทราบชื่อว่านายจันทร์ นักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งให้มาชักลากเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีพร้อมนำของกลางรถยนต์และไม้พะยูงที่ถูกตัดเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมขยายผลไปถึงคนชื่อจันทร์ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรต่อไป
นายโกมินทร์กล่าวว่า หลังมีการดำเนินคดีดังกล่าวพบว่าได้มีชายลึกลับโทรศัพท์เข้ามาหาตนหลายครั้ง เพื่อขอเคลียร์คดีนี้ โดยเสนอทั้งเงินและวิธีการที่จะให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาด้วย แต่เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ตนจึงไม่มีสิทธิ นอกจากนี้ ต้นไม้ทั้งหมดตนดูแลเพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียวและเห็นว่าเป็นสมบัติของชาติจึงอยากให้เรื่องนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมต่อไป
