ภาคเสธทั้งคู่..หนุ่มฝรั่งเศส-สาวบึงนารางโยนกันเอง อ้างไม่ได้ฆ่าหั่นศพเผาผัวเฒ่าอิตาลี

ตาก - ผู้การตำรวจเมืองตากนำทีมสอบปากคำเบื้องต้น สาวบึงนารางให้การภาคเสธ อ้างไม่ได้ลงมือฆ่าหั่นศพ-เผานั่งยางผัวเฒ่าอิตาลี บอกแค่สมรู้ร่วมคิด ผัวหนุ่มฝรั่งเศสรู้เห็น

วันนี้ (29 ม.ค.) พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก, พ.ต.อ.มนัส ศรประพันธ์ พ.ต.อ.ไสว ครุธผาสุข รอง ผบก.ภ.จว.ตาก ได้เดินทางไปที่ สภ.วังเจ้า และเข้าร่วมทำการสอบสวนนางสาวรุธจิรา เอี่ยมละม้าย หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพเผานั่งยางนายจูเซปเป้ เดอ สเตฟานี ชาวอิตาลี สามีของนางรุธจิรา อายุ 62 ปี

หลัง พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.บึงนาราง, พ.ต.อ.สัญชัย วราพงษ์ลิขิต ผกก.สส.ภ.จว.พิจิตร, พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สว.กก.4 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วย และชาวบ้านจับกุมได้ขณะหลบซ่อนในสวนลำไยบ้านใหม่ชัยมงคล หมู่ที่ 10 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก ช่วงสายที่ผ่านมา

เบื้องต้นนางสาวรุธจิรา ผู้ต้องหาให้การว่า ตนได้เสพยาบ้ามาจำนวน 3 เม็ดเพื่อให้มีแรงในการหลบหนี พร้อมซัดทอดว่า นายอาโมรี ริโก ชาวฝรั่งเศส ที่หลบหนีด้วยกันแล้วถูกจับกุมตัวได้ก่อนเมื่อค่ำวานนี้ขณะซ่อนตัวอยู่ในกอหญ้าในคลองเชียงทอง ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร มีส่วนรู้เห็นกับการฆ่า โดยเป็นผู้วางแผนการทั้งหมด ส่วนตนเป็นเพียงผู้สมรู้ร่วมคิด แต่ยืนยันว่าไม่ได้ลงมือ

ส่วนที่หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่บ้านมอรังงาม หมู่ที่ 22 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นที่ตั้งแคมป์พักอยู่ริมลำธารคลองวังเจ้า รอยต่อบ้านใหม่ชัยมงคล หมู่ที่ 10 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก เนื่องจากพื้นเพนางสาวรุธจิราเป็นคนในหมู่บ้านมอรังงาม มีญาติพี่น้องอยู่ที่นี่ หลังก่อเหตุจึงได้มาหลบซ่อนตัวในสวนของชาวบ้านที่ห่างไกลจากชุมชน หวังให้เรื่องเงียบจึงจะหาทางหลบหนีไปที่อื่นต่อ

แต่มีชาวบ้านพบนางสาวรุธจิราใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเขียว มีหมวกคลุมหน้าสีดำ สวมรองเท้าบูตสีดำแบบที่พบในจุดค้างแรม มาซื้ออาหารแห้ง ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และบุหรี่ รวมเป็นเงิน 59 บาท จากนั้นได้เดินไปทางสวนลำไยหลังหมู่บ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจนจับกุมได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ นางสาวรุธจิรามีสภาพอิดโรย ใบหน้าซูบ และร้องไห้ตลอดระหว่างให้การต่อเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังคงให้การภาคเสธว่าตนเองไม่ได้ลงมือฆ่าสามีชาวอิตาลี ส่วนรายละเอียดของการสอบสวนเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย

หลังจากทำบันทึกจับกุมลงประจำวัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลับไปสอบสวนดำเนินคดีต่อในท้องที่เกิดเหตุคือ สภ.บึงนาราง จ.พิจิตร ทันที

อนึ่ง นายอาโมรี ริโก ชาวฝรั่งเศส ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกจับได้เมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) ก็ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าที่ผ่านมารับรู้เรื่องราวที่นางสาวรุธจิรา เอี่ยมละม้าย คิดจนถึงการลงมือฆ่าสามีชาวอิตาลีจากคำบอกเล่าของนางสาวรุธจิรา

นายอาโมรี ริโก อ้างว่า นางสาวรุธจิรายังบอกกับตนว่าได้ลงมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีใครรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่มีส่วนในการลงมือฆ่าแต่อย่างใด ส่วนที่ต้องหลบหนีมากับนางสาวรุธจิราเพราะความเป็นห่วง โดยนางสาวรุธจิราบอกว่า ที่นี่ประเทศไทย เธอรู้จักสถานที่หลบซ่อนตัวดี ขอให้ตนมาเป็นบอดี้การ์ดอยู่ข้างๆ

แต่ระหว่างหลบหนีเห็นข่าวตนเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีภาพรถยนต์จากกล้องวงจรปิด จึงได้ไปซื้อสีสเปรย์สีดำประมาณ 10 กระป๋องจากร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร แล้วมาพ่นเปลี่ยนสีรถจากเดิมสีฟ้าให้เป็นสีดำเพื่ออำพรางหวังจะตบตาเจ้าหน้าที่