นครพนม - ตร.นครพนม ประเดิมสรุปสำนวนคดี “ครูจอมทรัพย์” ส่งฟ้องศาลไปก่อน 2 ราย “สับ-เมีย” เผยเร่งสรุปทำสำนวนที่เหลือส่งอัยการฟ้องต่อศาลอีก 11 ราย ยันไม่มีออกหมายเรียกเพิ่มเติม ส่วนผลสอบสวนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงดีเอสไอ ต้องรอผลการสรุปจาก สตช. กับกระทรวงยุติธรรม
วันนี้ (22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีของคณะทำงานดำเนินคดีเอาผิดขบวนการรับจ้างทำผิดแทน ปั้นพยานเท็จช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้สรุปผลการดำเนินคดีต่อบุคคลเกี่ยวข้อง มีการออกหมายเรียกไปทั้งหมด 13 ราย ดำเนินคดีรวมทั้งหมด 11 ราย ประกอบด้วย
1.นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร 2.นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามี 3.นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง 4.นายสับ วาปี 5.นางจัน วาปี ภรรยานายสับ 6.นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ พยาน 7.นางทองเรศ วงศ์ศรีชา พยาน 8.น.ส.วาสนา เพชรทอง เป็นหลานสาวครูจอมทรัพย์ 9.นายรจนา จันทรัตน์ เพื่อนครูจอมทรัพย์ 10.นายเสน่ห์ สุพรรณ์ เป็นเพื่อน 11.นายธณัช สุขตลอดปี เป็นทนายความส่วนตัว อีก 2 รายที่มีการออกหมายเรียก แต่ทางตำรวจสอบไว้เป็นพยาน คือ นายเลิศ วาปี กับ นายบุญเทิง วาปี
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด จำนวน 11 ราย มีแจ้งข้อหาหลักฐานความผิด จำนวน 3 ข้อหา คือ ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานเท็จ เบิกความเท็จ และซ่องโจร
มีเพียง นายธณัช สุขตลอดปี เป็นทนายความส่วนตัวที่ถูกแจ้งข้อหารวม 4 ข้อหา มีแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ร่วมแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ และซ่องโจร มีอัตราโทษรวมสูงสุดมากกว่า 10 ปี
ในส่วนของ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร และนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง อยู่ระหว่างการควบคุมตัวฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม เป็นผลัดที่ 2 เนื่องจากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ที่เหลือ 9 ราย อยู่ระหว่างการประกันตัว ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งคดีนี้มีกำหนดฝากขังทั้งหมด 4 ผลัด ผลัดละ 12 วัน
ล่าสุด วันนี้ (22 ธ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปสำนวนคำให้การของ นายสับ วาปี พร้อม นางจัน วาปี ภรรยา รวม 2 ราย ส่งฟ้องให้อัยการจังหวัดนครพนม ตามขั้นตอน เพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ต่อไป ตามระยะเวลาที่กำหนดที่เหลืออีก 9 ราย อยู่ระหว่างการเร่งสรุปสำนวนคำให้การส่งอัยการภายหลัง
ในส่วนของคณะทำงานตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ถือว่าได้ดำเนินคดีต่อผู้ร่วมขบวนการครบถ้วน ไม่มีออกหมายเรียกเพิ่มเติม ส่วนผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงดีเอสไอ จะต้องรอผลการสรุปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกระทรวงยุติธรรม
