นครพนม - ตำรวจนครพนม แจ้งข้อหาอดีตสามีครูจอมทรัพย์ ทั้งอั้งยี่ซ่องโจร ให้การเท็จ เบิกความเท็จต่อศาล ทั้งตามเอาผิดพยานปากเอก และเพื่อนครูจอมทรัพย์อีก 5 ราย ในข้อหาเดียวกัน เหตุเข้าข่ายร่วมกันปั้นพยานเท็จ
วันนี้ (11 พ.ย.) พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าความคืบหน้าล่าสุดคดี ครูจอมทรัพย์ ได้ประชุมหารือเร่งรัดดำเนินคดีต่อขบวนการรับจ้างทำผิด ปั้นพยานเท็จในคดีครูจอมทรัพย์ พร้อมแจ้งข้อหาหนักต่อ นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตสามีครูจอมทรัพย์ อาชีพรับราชการเป็นหัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลแห่งหนึ่ง ในจ.สกลนคร โดยทั้งสองจดทะเบียนหย่าภายหลังครูจอมทรัพย์ พ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อปี 2558
ก่อนกลับมาใช้ชื่อ นางจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม ส่วนความผิดทางตำรวจได้แจ้งข้อหาอดีตสามี ฐานความผิดให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน เบิกความเท็จต่อศาล รวมถึงอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นฐานความผิดร่วมกันกับครูจอมทรัพย์ และครูอ๋อง นายสุริยา นวลเจริญ เนื่องจากพบหลักฐานเชื่อมโยง เคยมาให้การตำรวจเพื่อหาทางช่วยเหลือครูจอมทรัพย์ ก่อนจะรื้อฟื้นคดี โดยวันนี้จะเรียกตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม หลังเมื่อวานที่ผ่านมา ได้เข้ามารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน เวลา 18.30 น. และไม่มีการควบคุมตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และเข้ามารายงานตัวด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ทางตำรวจได้ดำเนินคดีแจ้งข้อหาต่อพยานสำคัญอีก 5 ราย ที่เคยร่วมเป็นพยานให้การช่วยเหลือ ครูจอมทรัพย์ ทั้ง นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี รวมถึงนางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่เคยให้การตำรวจ ว่า พบเห็นชายเป็นคนขับรถยนต์ชนคนตาย ก่อนเดินลงมาดูคนตายแล้วหลบหนีไป รวมถึง นางรจนา จันทรัตน์ อายุ 55 ปี เพื่อนครูจอมทรัพย์ ที่เคยออกมาให้การช่วยเหลือรวบรวมพยานหลักฐานเบิกความต่อศาล ถือว่าเข้าข่ายร่วมกันปั้นพยานเท็จ เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาฐานความผิดให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน เบิกความเท็จต่อศาล รวมถึงอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นฐานความผิดร่วมกันกับครูจอมทรัพย์
สำหรับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ตำรวจได้ทำหนังสือเชิญมาสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการช่วยเหลือรื้อฟื้นคดี ที่ตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น เพื่อพิจารณาอำนาจหน้าที่ หากพบว่ามีการเชื่อมโยง หรือให้การช่วยเหลือนอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย จะต้องมีการดำเนินคดีเช่นกัน