นครพนม - อดีตสามีครูจอมทรัพย์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ศาลให้ประกันตัวชั่วคราวไม่ต้องนอนคุก ด้านตำรวจออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย ทั้งข้อหาร่วมกันนำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ บางคนจะเป็นเบิกความเท็จ และมีบางคนโดนข้อหาซ่องโจร
บ่ายวันนี้ (30 พ.ย.) พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (29 พ.ย.) นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีครูจอมทรัพย์ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 126 หมู่ 5 ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ย่องเงียบเพื่อหลบทัพผู้สื่อข่าวเดินทางมามอบตัว โดยมี พ.ต.ท.สมพงษ์ แรงรอบ สว.สอบสวน สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีครูจอมทรัพย์ เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหารวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ร่วมกับพวกแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีสาระสำคัญว่า นายสับ วาปี เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร เฉี่ยวชนนายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2548 เหตุเกิดที่ถนนสายบ้านธาตุน้อย-นาเหนือ บ้านสร้างเม็ก หมู่ 7 ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม
2. ได้ร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในคดีในการพิจารณาคดีอาญาของศาลจังหวัดนครพนม ในการไต่สวนเพื่อให้รื้อฟื้นคดีอาญาคดีหมายเลขดำ ที่ อ.977/2548 คดีหมายเลขแดง ที่ 1527/2549 โดยกระทำผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยการจัดหาหรือสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จให้นางจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นคู่ความในคดีอ้างนำสืบหรือแสดงต่อศาลจังหวัดนครพนม แจ้งการกระทำความผิดฐาน ร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในการพิจารณาคดีอาญา และร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในคดีในการพิจารณาคดีอาญาของศาลจังหวัดนครพนม ในการรื้อฟื้นคดีอาญาคดีหมายเลขดำ ที่ อ.977/2558 คดีหมายเลขแดง ที่ 1472/2559 ขึ้นพิจารณาใหม่
โดยกระทำผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยทำหน้าที่ในการจัดหาหรือสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จให้นางจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นคู่ความในคดีอ้างนำสืบหรือแสดงการต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยพยานหลักฐานอันเป็นเท็จมุ่งพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดอันเป็นข้อสำคัญในคดี การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในข้อสำคัญในคดีในการพิจารณาคดีอาญาและการกระทำ
จากการกระทำระหว่างปลายปี 2556 ถึงวันที่ 8 ก.พ. 2560 ที่มีจำนวนมากกว่า 5 คน คบคิดกันกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น ซึ่งเป็นความผิดอาญาที่บัญญัติไว้ในภาคสองแห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป กระทำความผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันกระทำเป็นขบวนการต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน และแจ้งให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานซ่องโจร ซึ่งเป็นข้อหาที่ 3
อย่างไรก็ตาม นายนิรันดร์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และหลังสอบสวนปากคำเสร็จจึงอนุญาตให้กลับบ้าน โดยนัดให้มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ในวันที่ 30 พ.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ สภ.เมืองนครพนม แต่นายนิรันดร์เดินทางมาถึงในเวลา 12.00 น. พร้อมกับทนายความ 3 คน และญาติเป็นผู้หญิงที่หอบเอกสารต่างๆ เพื่อยื่นเรื่องขอประกันตัว
ต่อมา พ.ต.อ.ณรงค์ วงศ์ธรรม ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.นครพนม และ พ.ต.ท.กฤษดา สุพรรณกูล สว.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม เป็นผู้ควบคุมตัวนายนิรันดร์ส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม
หลังนำตัวนายนิรันดร์ถึงศาลก็ถูกนำตัวเข้าห้องคุมขังภายในศาลจังหวัด โดยทนายยื่นเงินสดพร้อมหลักฐานการดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนี่งในจังหวัดสกลนคร เพื่อใช้ตำแหน่งข้าราชการขอประกันตนเอง กระทั่งเวลา 15.50 น. ศาลฯ อนุญาตให้นายนิรันดร์ประกันตัว
พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวต่อว่าหลังจากได้มีการสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีครูจอมทรัพย์แล้วพบว่ายังมีผู้ที่อยู่ในข่ายร่วมกันกระทำผิดเพิ่มอีกหลายราย ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติมในคดีครูจอมทรัพย์อีก 5 คน โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องในการให้การเท็จในขั้นตอนต่างๆ ในการรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ ซึ่งผู้ที่ถูกออกหมายเรียกอีก 5 คน มี 1. นางทองเรศ วงศ์ศรีชา 2. นางวาสนา เพชรทอง 3. นายธนัท สุขตลอดปี 4. นางรจนา สารรัตน์ และ 5.นายเสน่ห์ สุพรรณ โดยมีนางทองเรศ วงศ์ศรีชา คนเดียวที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดนครพนม ส่วนอีก 4 คนมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องให้เวลามาพบพนักงานสอบสวน และข้อหาที่แจ้งจะเป็นการร่วมกันนำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ บางคนจะเป็นเบิกความเท็จ และมีบางคนโดนข้อหาซ่องโจร
ในส่วนของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ นั้นหลังจากถูกนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจังหวัดนครพนมแล้วพบว่านางทัศนีย์เคยป่วยเป็นโรคความดันและมีประวัติการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอนาแก หลังตรวจเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม โดยศาลให้ประกันตัวไปโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงิน 1 แสนบาท