xs
xsm
sm
md
lg

“สับ วาปี” แฉยิบขบวนการจ้างรับผิดแทน “ครูจอมทรัพย์” บอกให้ 4 แสน แต่รับจริงแค่ 2 พันบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสับ วาปี
นครพนม - สอบเครียด “สับ วาปี” หลังโผล่มอบตัว ผู้การนครพนมเผยเจ้าตัวเล่าละเอียดยิบขบวนการรับจ้างเป็นแพะขับรถชนคนตายเพื่อรับผิดแทน “ครูจอมทรัพย์” ซ้ำสารภาพชัด “ครูอ๋อง” จ้าง 4 แสน แต่ได้เพียง 2 พันบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายสับ วาปี เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสารภาพว่าได้รับการจ้างวานให้รับผิดแทนครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร นั้น พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย สาดมะเริง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีครูจอมทรัพย์ได้ร่วมสอบปากคำนายสับด้วยตัวเองพร้อมได้อัดวิดีโอบันทึกเทปโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันกรณีกลับคำสารภาพในภายหลัง

หลังจากนั้น พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันทร์ดี รอง ผบภ.ภ.จว.นครพนม ได้นำตัวนายสับเข้าไปห้องส่วนตัว พล.ต.ต.สุวิชาญ ณาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เพื่อร่วมสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวหลังสอบปากคำนายสับ วาปี ว่านายสับผู้ถูกกล่าวหาในคดีแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม และ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร ได้เดินทางมาพร้อมกับ ร.ต.ต.ชัยยุทธ นายกเทศบาล ต.คำป่าหลาย เพื่อติดต่อขอมอบตัว หลังสอบถามรายละเอียดนายสับได้เล่าให้ฟังถึงขบวนการอย่างละเอียดยิบ โดยตนจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดีกรณีที่นายสับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ผ่านมาที่เป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น

พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวต่อว่า นายสับ วาปี ให้การรับสารภาพว่า ผู้ว่าจ้างรับปากจะให้เงินเบื้องต้นจำนวน 4 แสนบาท แต่หากเปลี่ยนตัวเป็นนายเสริฐ รูปสะอาด แล้วนายสับ วาปี จะได้เงิน 1 แสนบาท ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาโดยมีผู้ประสานงานตลอด คือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และอีกหลายคนที่เป็นประโยชน์ต่อคดี ช่วงที่ครูอ๋องไปจ่ายเงินที่ศาลจังหวัดนครพนม ในขณะนั้นครูจอมทรัพย์ยังอยู่ในเรือนจำ นายสับยังสารภาพด้วยว่ายังได้เจอครูอ๋องและยังขอบคุณด้วย

ผบก.ภ.จว.นครพนมกล่าวอีกว่า วันนี้เพิ่งเริ่มต้นกระบวนการสอบสวน ส่วนคำเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนมของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้มาหมดแล้ว ยังมีข้อหาเบิกความเท็จต่อศาล ที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบคำรับสารภาพ หลังแจ้งข้อหาสอบสวนพิมพ์มือนายสับเสร็จก็ต้องปล่อยตัวนายสับ และนัดในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) จะได้นำตัวนายสับส่งพนักงานอัยการก่อน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีเครือญาตินายสับ วาปี หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกไปแล้ว พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวว่า เท่าที่ทราบเป็นพี่ชายนายสับ และภรรยานายสับมาเป็นเพื่อนไปเซ็นเป็นพยานที่ สภ.นาโดน ก็น่าเห็นใจ แต่เป็นความผิดทางกฎหมาย จากคำให้การของนายสับยังระบุว่าเครือญาติก็รู้ว่าได้ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.นาโดน ในครั้งนั้น

ส่วนกรณีนายเสริฐ เขาบอกว่าขับรถไม่เป็น จึงกลับมาเป็นนายสับ วาปี อีกครั้ง จึงเป็นสองช่วง 2 ตอน ส่วนครูจอมทรัพย์จะมีส่วนกับขบวนการรับจ้างผิดแทนหรือไม่ ต้องมีการพิจารณาต่อไป

พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้าที่นายสับ วาปี จะมามอบตัวนั้น นายสับเล่าว่า ได้ไปพบ ร.ต.ต.ชัยยุทธ นายกมนตรีเทศบาล ต.คำป่าหลาย ก่อนเพื่อปรึกษาว่าจะหนีอย่างไร ในสุดท้ายนายสับจึงมามอบตัวโดยบอกว่าวันนี้เขาโล่งใจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่านายสุริยา หรือครูอ๋อง หลบหนีไปฝั่งลาวแล้ว เท็จจริงอย่างไร พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวว่า ข่าวคือข่าว ทุกคนเป็นแค่ความผิดในหมายเรียก แต่ถ้าผู้ต้องหาพร้อมที่จะมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตามที่ได้ออกหมายเรียกไป อาจจะภายใน 7 วันหรือ 8 วัน แต่ถ้ามาพบเจ้าหน้าที่ก่อนก็ไม่ได้ผิดอะไร ส่วนกรณีครูอ๋องก็เป็นแค่ข่าวที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ ก็ไม่รู้จะหนีทำไม แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว หากขัดหมายเรียกครั้งที่ 2 ก็ต้องออกหมายจับ

คณะทำงานที่ตนแต่งตั้งขึ้นมาจะลงมากำกับคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่ใช่คณะทำงานสอบสวน ประเด็นหลักที่นายสับสารภาพมาทั้งหมดนั้น นายสับยอมรับว่าพูดเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องและผิดจริง คิดว่าไม่มีอะไรมาก แต่สิ่งตอบแทนที่ได้คือเงิน

“ตัวนายสับยังระบุด้วยว่า ก่อนรับงานก็ไม่เคยเจอครูอ๋องมาก่อน เพียงแต่นายสับสมอ้างว่าเป็นเส้นทางของรถที่รับสมอ้าง และเป็นชื่อนายสับเป็นคนขับรถ วันนี้ตอบได้ว่ารถคันนี้ไม่ได้ชน ซึ่งนายสับบอกว่าขายเป็นเศษเหล็กแล้ว และสารภาพยืนยันว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง นายสับพูดด้วยว่า ค่าจ้างเป็นเงิน 4 แสนก็จริง แต่ได้แค่ 2 พันบาท” พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีกล่าวว่า ส่วนกรณีของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ หนึ่งในขบวนการที่เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกไปแล้วก็ต้องพิจารณาคำเบิกความของศาลซึ่งเป็นสาระสำคัญของนายทัศนีย์นั้น คำเบิกความเป็นเท็จหรือไม่ คณะทำงานก็ต้องนำมาพิจารณากัน

ส่วนกรณีของนายเสริฐ รูปสะอาด ที่เคยมาให้การต่อศาลจังหวัดนครพนม ในครั้งที่มีการเบิกความของพยานฝ่ายคัดค้าน เมื่อระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา นายเสริฐให้การเป็นประโยชน์ในครั้งแรก อาจจะต้องกันตัวไว้เป็นพยานซึ่งจะได้หารือกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น