นครพนม - ฝ่ายตำรวจรุกต่อเนื่อง! ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่นครพนม เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องคดี “ครูจอมทรัพย์” รวมถึง “พ.ต.ท.ทนงศักดิ์” อดีตพนักงานสอบสวน สภ.เรณูนคร ปิดห้องหารือนานร่วม 2 ชม. ชี้คำร้องรื้อคดีมีพิรุธ เผย ตร.ภ.4 สั่งภูธรนครพนมตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว 8 นาย พร้อมส่งกำลังฝังตัวในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (17 ม.ค.) จากกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ตกเป็นผู้ต้องขังในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อปี 2548 ก่อนได้รับการอภัยโทษ เมื่อปี 2558 ออกร้องเรียนความยุติธรรม โดยยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ต้องหา
ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีใหม่ ศาลจังหวัดนครพนมนัดสอบปากคำนัดแรกเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาและได้เลื่อนการนัดไต่สวนออกไปเป็นวันที่ 8-10 ก.พ.นี้
ล่าสุด พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผช.ผบ.ตร.ได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม โดย เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีครูจอมทรัพย์มาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม จากนั้นปิดห้องประชุมคุยกันนานกว่า 2 ชั่วโมง และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง
ภายหลังหารือกันเสร็จ พล.ต.ท.มนูเปิดเผยว่า วันนี้ตนมาราชการในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลตำรวจภูธรภาค 4 และเท่าที่รับฟังรายงานจาก พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง อดีตพนักงานสอบสวน สภ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมตรวจดูสำนวน เห็นว่าทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีประเด็นจากฝ่ายตำรวจออกมาระบุว่าครูจอมทรัพย์มีการจัดฉากเพื่อหาคนมารับผิด ตามที่มีการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) มีความเห็นอย่างไร พล.ต.ท.มนูกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตั้งกรรมการสืบสวน สอบสวนข้อเท็จจริงด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปฝังตัวอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากในคำร้องของครูจอมทรัพย์มีข้อพิรุธ ทางพนักงานสอบสวนสงสัยว่าจู่ๆ ทำไมมาขอรื้อฟื้นคดีตอนนี้ ด้วยการกล่าวอ้างถึงรถยนต์คันที่เกิดการเฉี่ยวชนจนมีผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนละคันกัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เหตุการณ์นี้มีการเชื่อมโยงกับกระบวนการรับจ้างติดคุกด้วยหรือไม่ ผช.ผบ.ตร.ระบุว่า ต้องรอคณะกรรมการสอบสวนให้เสร็จก่อน พร้อมกันนี้ขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนในกรณีการนำเสนอข่าวควรจะมองให้ครบทุกประเด็น แค่มีคนมาร้องว่าไม่ใช่คนผิด ก็กล่าวหาว่าตำรวจจับแพะแล้ว ควรมองด้วยความเป็นธรรม เสนอข่าวให้รอบคอบ หากตำรวจผิดจริงจะต้องรับโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา
ส่วนจะมีการเรียกตัวนายสับ วาปี ที่ถูกระบุว่าเป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริงนั้น หากต้องการสอบปากคำ คณะกรรมการสอบสวนก็จะเชิญตัวมา
ด้าน พ.ต.อ.ธีฑัต อิ่มทั่ว รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวว่า คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนที่ตั้งขึ้นมีทั้งหมด 8 นาย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะเป็นความลับของทางราชการ