นครพนม - ลุ้นระทึก! แพะหรือแกะคดีอันโด่งดัง ครูจอมทรัพย์ขับรถชนคนตายเมื่อปี 48 ติดคุกฟรี 1 ปี 6 เดิอน ศาลนครพนมนัดอ่านคำพิพากษา 17 พ.ย.นี้ หลังกระทรวงยุติธรรมยื่นมือช่วยเหลือจนต้องมีการรื้อคดีใหม่ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีดังครูจอมทรัพย์ลุ้นนานนับปี
จากกรณีคดีดัง “ครูแพะ” นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ชาว จ.สกลนคร ที่ออกมาร้องทุกข์ต่อกระทรงยุติธรรมว่าตกเป็นแพะ หลังถูกตัดสินจำคุกเกี่ยวกับคดีขับรถชนคนตาย โดยเหตุเกิดเมื่อ 11 มีนาคม 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังติดคุก 1 ปี 6 เดือน จากคำพิพากษาตัดสินของศาลฎีกาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน เมื่อปี 2556 แต่ได้รับการอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558
จนกระทั่งต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณารื้อคดี โดยมีกำหนดนัดสืบพยานเมื่อวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา
ล่าสุดศาลจังหวัดนครพนมได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 17 พ.ย.นี้ เวลา 13.00 น. จะเป็นการชี้ชะตาครูจอมทรัพย์ว่าจะเป็นแพะ หรือเป็นแกะ หลังมีการร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม อีกทั้งยังถือเป็นคดีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการขอรื้อคดีเพื่อพิจารณาใหม่ ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ. 2526 ถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับกระบวนการยุติธรรมของไทย และเป็นอีกคดีหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก
สำหรับคดี “ครูแพะ” หรือครูจอมทรัพย์ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 11 มีนาคม 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังครูจอมทรัพย์ติดคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน จากคำพิพากษาตัดสินของศาลฎีกาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน เมื่อปี 2556 แต่ได้รับการอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณารื้อคดี โดยศาลนัดสืบพยานเมื่อวันที่ 8-10 ก.พ. 60 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ได้ออกมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมว่าตกเป็นแพะในคดี ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนขับรถยนต์ที่ชนในที่เกิดเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันหลักฐานในการดำเนินคดีว่ารถยนต์กระบะ โตโยต้า ทะเบียน บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นของครูจอมทรัพย์ ได้เกิดอุบัติเหตุชนคนตาย
แต่ภายหลังได้มีการรวบรวมหลักฐานร้องทุกข์มาเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนมว่า รถยนต์คันที่ชนคือ รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร พร้อมระบุว่ามี นายสับ วาปี เป็นเจ้าของเป็นคนขับชน พร้อมได้มีการเบิกความ นำพยานหลักฐานทั้งหมด มายืนยันในการพิจารณารื้อคดีของศาลจังหวัดนครพนม
ครูจอมทรัพย์ยืนยันมาโดยตลอดว่าตนถูกใส่ความจากความผิดพลาดในการสอบสวนดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากนี้ ในการพิจารณาไต่สวนของศาล ทางด้านครูจอมทรัพย์ยังได้มีการนำพยานปากสำคัญมาเบิกความต่อศาลเพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด คือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี และ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 51 ปี ที่เป็นพยานสำคัญ ที่เคยยืนยันว่าเห็นคนขับรถยนต์คันที่ก่อเหตุเป็นชายลงมาดูศพผู้ตาย ก่อนขับรถยนต์หนีไป
แต่สามารถจำเลขทะเบียนรถได้เพียง 56 ไม่สามารถจำยี่ห้อ รวมถึงหมวดอักษร และจังหวัดของป้ายทะเบียนได้