นครพนม - ผู้การนครพนมเผยการรื้อสำนวนคดีครูเมืองสกลฯ โชคร้ายตกเป็นแพะติดคุกฟรีต้องศาลชั้นต้นสั่ง แต่ยันตำรวจเจ้าของคดีทำตามขั้นตอนถูกต้อง
กรณีคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ข้าราชการครูชาว จ.สกลนคร ตกเป็นแพะในคดีอุบัติเหตุขับรถชนคนตาย เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 11 มี.ค. 48 ในท้องที่ของ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม จนกระทั่งมีการพิจารณาตัดสินของศาลฎีกาให้จำเลยติดคุก เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 56 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน และมีการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมถึง 3 ศาล โดยศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง แต่ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 59 ให้ศาลชั้นต้น คือศาลจังหวัดนครพนม ดำเนินการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ เนื่องจากจำเลยได้ร้องทุกข์ผ่านกระทรวงยุติธรรมว่าเป็นผู้เสียหายในคดีแพะ แต่ถูกดำเนินคดี และได้รับการอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน
ล่าสุด พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ในส่วนของตำรวจภูธรนครพนม เบื้องต้นจะต้องรอคำสั่งของศาลชั้นต้นในการพิจารณารื้อคดีใหม่ตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเป็นคดีที่ขึ้นสู่ชั้นศาล และสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว ทางตำรวจต้องรอคำสั่งศาลเพื่อสอบสวนดำเนินคดีใหม่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุวิชาญระบุว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน รวมถึงสำนวนการสอบสวน พบว่ากระบวนการสอบสวน พยาน ตรวจสอบเอกสารหลักฐานเป็นไปตามขั้นตอนถูกต้อง แต่ส่วนของความผิดพลาด หรือเป็นเหตุให้จำเลยติดคุกฟรีนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องต่อสู้กันทางกฎหมาย จะต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง
ส่วนของเรื่องระเบียบหรือความผิดของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี หากมีความผิดพลาดจะต้องรอการตรวจสอบตามขั้นตอนอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ถือว่าตำรวจทำตามหน้าที่ และกระบวนการของการสอบสวนทุกขั้นตอน
นอกจากนี้ ในส่วนของการดำเนินคดีต่อเนื่องสำหรับผู้ที่กระทำความผิดจริงยังไม่สามารถไปดำเนินคดีได้ จะต้องรอกระบวนการของศาลชั้นต้น เพื่อจะได้สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน เจ้าของคดีคือ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ โพธิโหน่ง เดิมเป็นพนักงานสอบสวนของ สภ.นาโดน ท้องที่เกิดเหตุ ปัจจุบันเป็นรอง ผกก.สอบสวน สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
ส่วนรายละเอียดของคดีในขณะนั้นระบุว่า เกิดเหตุวันที่ 11 มี.ค. 48 ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. บริเวณเขตบ้านสร้างเม็ก หมู่ 7 ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่มีการตรวจสอบของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม พบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 1 ต.พระซอง อ.นาแก จ.นครพนม ถูกเฉี่ยวชนขณะปั่นจักรยาน ส่วนรถยนต์คันที่ชนกับรถจักรยานของผู้เสียชีวิตเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเก่า เคบีแซด สีเขียว ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร คนขับคือ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.กุดเข้ อ.เมืองมุกดาหาร
แต่บังเอิญใกล้เคียงกับทะเบียนรถยนต์ของผู้เสียหายที่ตกเป็นแพะในคดี คือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร คือรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน บค 56 สกลนคร สีบรอนซ์ทอง
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าของรถยนต์ที่ขับรถยนต์ชนจักรยานเสียชีวิตได้หลบหนี และนำรถไปซ่อนไว้ในไร่อ้อยประมาณ 3 เดือน ต่อมาได้มีการขายต่อให้คนอื่น