ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือไทย จัดเต็ม มหกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ อย่างยิ่งใหญ่ ครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน และงานนิทรรศการเทคโนโลยีเรือในทศวรรษหน้า ครั้งที่ 4 “The 4th Ship Technology for the Next Decade : Ship Tech IV ” พัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อให้สอดคล้องต่อ Thailand 4.0
กองทัพเรือประกาศความพร้อม!! จัดงานมหกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน และงานนิทรรศการเทคโนโลยีเรือในทศวรรษหน้า ครั้งที่ 4 “The 4th Ship Technology for the Next Decade : Ship Tech IV” พัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อให้สอดคล้องต่อ Thailand 4.0 ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 13-22 พ.ย. นี้ บริเวณอ่าวพัทยา เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
โดยมีกองกำลังทางเรือ และกำลังทางอากาศที่เข้าร่วมงานนี้ของประเทศสมาชิกอาเซียน จำนวน 26 ลำ จาก 19 ประเทศ ส่วนกองทัพเรือไทย ได้ส่งเรือรบหลวงเข้าร่วม 14 ลำ รวมเป็น 40 ลำ และกองทัพเรือไทย ยังได้พิจารณาให้ เรือหลวงถลาง หมายเลข 621 สังกัดกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ เป็นเรือประธานในพิธี ซึ่งเหตุผลในการใช้เรือหลวงถลาง เนื่องจากเป็นเรือรบหลักที่ทำหน้าที่ต่อต้านทุ่นระเบิดในทะเล ดำเนินการต่อเรือโดยบริษัทอู่ต่อเรือของคนไทย โดยการกำกับดูแล หรือเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ
สำหรับมหกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ เป็นพิธีสวนสนามทางเรือของเหล่ากองทัพเรือในประเทศภูมิภาคอาเซียน และมิตรประเทศ นับเป็นพิธีสำคัญของทหารเรือ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลสำคัญของประเทศ หรือต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติในประเทศไทย
นอกจากนี้ ในส่วนของกรมอู่ทหารเรือ ได้จัดนิทรรศการแสดงถึงเทคโนโลยีเรือในอนาคต อาวุธยุทโธปกรณ์ ระบบรักษาความปลอดภัยของกองทัพเรือไทย ที่ก้าวไปอยู่ในแถวหน้าของกองทัพเรือในภูมิภาค โดยมีมิตรประเทศเข้าร่วมกว่า 58 ประเทศ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก นักลงทุนทั้งใน และนอกประเทศ ประชาชน และกำลังพลทหารเรือของมิตรประเทศให้เดินทางมาร่วมงาน ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2560 ณ อาคาร PEACH โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช พัทยา จังหวัดชลบุรี
พล.ร.อ.พลเดช เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั่วโลกกำลังจับตาเศรษฐกิจในอาเซียน เพราะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีอำนาจทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ซึ่งประเทศไทยถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่มั่นคงในทุกๆ ด้าน เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อของทุกภูมิภาค และยังเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงเทคโนโลยี
การจัดงานมหกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานรู้จักประเทศไทย และแสนยานุภาพเทคโนโลยีทางเรือของไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และคุ้มครองการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิตในน่านน้ำไทย
การจัดงานครั้งนี้ ที่สำคัญคือ การรวบรวมเทคโนโลยีทางเรือที่ทันสมัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากกว่าทุกครั้ง เพราะการมีระบบอำนวยการรบที่มีความทันสมัย พร้อมกับการมีเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น หมายถึงความสามารถในการป้องกันประเทศของกองทัพเรือไทยได้ก้าวหน้าไปอีกระดับ
ทั้งยังเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี และแนวคิดในด้านการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) และการจับคู่เจรจา (Business Matching) การร่วมมือทางการค้า และการร่วมลงทุน
ด้านเจ้าบ้าน คือ จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นหัวใจในเรื่องของสถานที่ในการจัดงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะเมืองพัทยา นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยว่า จังหวัดได้มีแผนยุทธศาสตร์เมืองว่าด้วยการเป็นนครศูนย์กลางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานยั่งยืนและน่าอยู่สำหรับทุกคน ซึ่งหมายถึง การพัฒนาเมืองจะต้องครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจที่จะต้องควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว
ดังนั้น การสร้างความเข้าใจให้แก่กลุ่มนักธุรกิจที่เข้าร่วมงาน เพื่อให้เกิดแนวคิดนำไปสู่การลงทุนในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่ง พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับงานสวนสนามทางเรือนานาชาติ ที่จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเป็นประธานสวนสนามทางเรือนานาชาติ ด้วยเรือหลวงถลาง รับการทำความเคารพจากตัวแทนทัพเรือนานาชาติ ในวันที่ 20 พ.ย 60 นี้ว่า กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย เพราะจะมีเรือรบรวม 26 ลำ จาก 19 ประเทศ เดินทางมาร่วมกิจกรรม นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของทัพเรืออาเซียนฉลองครบรอบ 50 ปี
โดยจังหวัดได้มีนโยบายสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน นักท่องเที่ยว รวมถึงผู้เข้าร่วมงาน โดยที่ผ่านมา ได้ประสานงานตำรวจท้องที่ในการออกกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ เพื่อรองรับงานดังกล่าวมาโดยตลอด
สำหรับในวันงานได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน รวมทั้งสิ้น 300 นาย มาปฏิบัติงานร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เพื่อความเป็นรูปธรรมชัดเจนในการทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความสำคัญในการป้องกันการกระทำความผิดต่อชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา รวมถึงให้นโยบายในการกวาดล้างกลุ่มขอทาน เร่ร่อน เตร็ดเตร่ และกะเทยชายหาด เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดต่อนักท่องเที่ยวตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวเมืองพัทยาทุกท่านในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
ด้าน นางอรวรา กรพินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการท่องเที่ยว ผู้แทนเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยา ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประสานในทุกๆ ด้านร่วมกับกองทัพเรือ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย การจัดกิจกรรมสมทบ ด้านสถานที่ ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการแพทย์และพยาบาล การจัดการจราจร และโรงแรมที่พัก เพื่อให้งานมีความสมบูรณ์ โดยเฉพาะการปรับปรุงสะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ต้องใช้ลำเลียงกำลังพล รวมถึงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม เพื่อให้กิจกรรมมีความสง่างามสมบูรณ์แบบมากที่สุด
สำหรับกิจกรรมไฮไลต์จะมีขึ้นในวันที่ 19-20 พ.ย.60 เช่น การเดินพาเหรดทางบก งานเลี้ยงรับรองผู้บัญชาการทหารเรือ การจุดพลุไฟ การสวนสนามทางเรือ การจัดนิทรรศการ โดยเฉพาะในส่วนของงานมหกรรมทางเรือ จะมีทหารเรือจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมกว่า 5,000 นาย ซึ่งยังไม่รวมนักท่องเที่ยว คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 100 ล้านบาท และโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่พัทยา โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่บริเวณริมหาดพัทยา ขณะนี้อัตราการจองเกือบ 100% โดยภาพรวมแล้วคาดว่าน่าจะมีเงินสะพัดในพื้นที่จากงานดังกล่าว 630 ล้านบาท