ผบ.ทร.แถลงจัดมหกรรมทางเรือนานาชาติ 13-22 พ.ย.ที่พัทยา มี 19 ชาติส่ง 26 เรือรบร่วม นายกฯ ชมสวนสนาม 20 พ.ย.มั่นใจเรียบร้อย จัดฝึกผสมพหุภาคี กองทัพเรืออาเซียน มี 10 ชาติร่วม จัดถก ผบ.ทร.อาเซียน มีเดินพาเหรดทางบกกำลังพลเรือนานาชาติ แข่งขันเรือยาวประเพณี และ Air Race 1 World Cup Thailand 2017
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ราชนาวิกสภา พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานแถลงจัดมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน ระหว่างวันที่ 13-22 พ.ย. ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จังหวัดใกล้เคียง และอ่าวไทยตอนบน โดยมี พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร.ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ที่ปรึกษาระดับ 9 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และพล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา เข้าร่วมแถลงข่าว
พล.ร.อ.นริสกล่าวว่า รัฐบาลมอบหมายให้ ทร.เป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยมุ่งหวังเป็นกิจกรรมระหว่างประเทศเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเป็นเครื่องมือสำหรับภาครัฐและเอกชนผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคทั้งนี้ ทร.มิตรประเทศ 19 ชาติ ส่งเรือรบ 26 ลำ และเรือรบไทย 18 ลำ รวมทั้งหมด 44 ลำ จอดอยู่ในอ่าวไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะเป็นประธานการสวนสนามทางเรือในวันที่ 20 พ.ย.นี้ โดย ทร.มั่นใจว่าการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นส่วนสำคัญของรัฐบาลในการสร้างความร่วมมือความเข้าใจกับชาติในอาเซียนและมิตรประเทศต่อไป และขอเชิญประชาชนติดตามกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและเพื่อเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของประเทศ
พล.ร.อ.ลือชัยกล่าวว่า มหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน มีกิจกรรมหลัก คือ 1. การสวนสนามทางเรือนานาชาติ (international fleet review 2017) จัดขึ้นวันที่ 20 พ.ย. 60 เพื่อแสดงแสนยานุภาพกำลังทางเรือกับประเทศที่เข้าร่วม และยังแสดงถึงความเป็นมิตรในประเทศอาเซียน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน 2. การฝึกผสมแบบพหุภาคี กองทัพเรืออาเซียน ซึ่งถือเป็นการฝึกครั้งแรกของอาเซียน และเป็นการศึกษาในระดับสากลมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ความชำนาญ แลกเปลี่ยนความรู้ของเรือรบต่างๆ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 และวันที่ 21-22 พ.ย. 60 ในพื้นที่ อ.สัตหีบ และอ่าวไทยตอนบน โดยการฝึกครั้งนี้ไม่เคยมีการฝึกที่ไหนมาก่อน ที่ได้นำ ทร.ทั้งกว่า 10 ชาติมาร่วมฝึกมาก่อน ยกเว้นสหรัฐฯ ที่ฝึก Rimpac ที่ห่างกัน 2,000 ไมล์
พล.ร.อ.ลือชัยกล่าวว่า 3. การประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียนครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กองทัพเรือได้แสดงออกถึงบทบาทและหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลซึ่งเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนประเชิญอยู่ในปัจจุบันและเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในภูมิภาค จัดในวันที่ 19 พ.ย. 60 และ 4. กิจกรรมเดินพาเหรดทางบกกำลังพลเรือนานาชาติที่เข้าร่วมสวนสนามทางเรือและขบวนแหล่งท่องเที่ยวโดยจะจัดขึ้นในวันที่ 19 พ.ย. 60 เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนับสนุนอาทิการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ประจำปี 2560 การจัดนิทรรศการเทคโนโลยีเรือในทศวรรษหน้าครั้งที่ 4 การแข่งขันเครื่องบิน Air Race 1 World Cup Thailand 2017 การแข่งขันเรือใบ International Fleet Review Regatta 2017 ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทร.มีความพร้อมในการรับรองผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้
พล.ท.วีรชนกล่าวว่า รัฐบาลไทยมีความยินดีและเป็นเกียรติที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน ถือเป็นงานสำคัญและเป็นประวัติศาสตร์อาเซียน โดยสืบเนื่องจากที่ประชุม ผบ.ทร.ครั้งที่ 8 กำหนดให้กองทัพเรือไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานดังกล่าว เมื่อปี 2557 หลังจากนั้น มีมติ ครม.เห็นชอบจัดกิจกรรมนี้ และให้เป็นกิจกรรมระดับประเทศ มีวัตถุประสงค์ ให้กิจกรรมมีความสมเกียรติ ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทย โดยรัฐบาลเน้นย้ำให้การจัดงานครั้งนี้เป็นกิจกรรมระดับโลก
พล.ท.วีรชนกล่าวอีกว่า เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของอาเซียน แสดงให้เห็นความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง ความสามัคคี ความร่วมมือกันในอาเซียน ตลอดจนถึง กองทัพเรือในอาเซียนและมิตาประเทศที่เข้าร่วม ทั้งนี้ทุกประเทศมุ่งมั่นร่วมกันทำทะเลของเรา เป็นทะเลเสรีภาพและสันติสุข นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย แล้วยังเปฌนประโยชน์ต่อประเทศในอาเซียนและ ประโยชน์ต่อโลก การจัดกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องนโยบายรัฐบาล “OUR HOME OUR COUNTRY STRONGER TOGETHER” หรือ “เราจะเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน และ นโยบายไทยแลนด์+1 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลส่งเสริมเรื่องความมั่นคง เสรีภาพ และความร่วมมือทางทะเลในอาเซียน และระหว่างประเทศอาเซียนกับมิตรประเทศ เน้นความปลอดภัยและเสรีภาพทางทะเล ซึ่งจะนำมาถึงความปลอดภัยต่อประชาชน การบริการ การท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจ เชื่อมโยงประชาชนถึงประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจอาเซียนและประเทศที่เข้าร่วม
ส่วนนายอภิชัยกล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1. การประชาสัมพันธ์ โดยได้แจ้งข่าวไปยังสำนักงานในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเผยแพร่กิจกรรมการจัดงานในเว็บไซต์และผู้ประกอบการก็ช่วยประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวด้วย และ 2. ด้านการตลาด โดยได้ประสานกับสมาคมท่องเที่ยว สมาคมแหล่งท่องเที่ยว สมาคมการโรงแรมให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว และรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วมกิจกรรม มีที่พักในราคาถูกในเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การจำหน่ายบัตรเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวที่ลดราคาในช่วงจัดกิจกรรมเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ในส่วนของพัทยาขณะนี้ทราบว่าโรงแรมที่ติดกับทะเลเต็มหมดแล้ว และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าพักในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 100,000 ห้อง แต่ทั้งนี้ยังได้เตรียมโรงแรมในพื้นที่ อ.สัตหีบ และ จ.ระยอง ไว้รองรับด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก
สำหรับ พล.ต.ต.อนันต์กล่าวว่า ยืนยันว่าเมืองพัทยามีความพร้อมเต็มที่ ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย กิจกรรมสมทบ สถานที่ การประชาสัมพันธ์ การแพทย์และพยาบาล รวมทั้งได้มีการปรับปรุงพื้นที่อาคารบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย และปรับปรุงภูมิทัศน์ในจุดที่เจ้าหน้าที่ใช้ทำงาน รวมถึงโรงแรมเพื่อรับรองนักท่องเที่ยวได้ถึงจำนวน 100,000 ห้อง และเตรียมโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงเอาไว้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยและเมืองพัทยาได้รับชื่อเสียงและสร้าฃความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศกับมิตรประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงในระดับโลกต่อไป
