ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ลือรถตู้รับ “เจ้าอาวาสวัดสวนดอก” ออกจากสำนักปฏิบัติธรรมสมเด็จพระมหามังคลาจารย์ที่ดอยอ่างขางหายตัวลึกลับ หลังจากการถูกร้องเรียนตรวจสอบเป็นพม่าสวมบัตรประชาชนคนตาย แถมกรมการปกครองส่อแววชี้เป็นเรื่องจริงและเตรียมแจ้งความร้องทุกข์ ขณะที่ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เผยเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชนตรงกับเด็กชายดวงดี เวียงดินดำ ชาวบ้านหนองดินดำ ตำบลบ้านแก้ง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2538 โดยมีหลักฐานที่เชื่อว่าพระราชรัชมุนีเป็นชาวพม่า และอาจจะมีการสวมบัตรประจำตัวประชาชนเป็นคนไทยนั้น
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากที่เกิดกรณีร้องเรียนให้ตรวจสอบยังคงเก็บตัวเงียบและไม่สามารถติดต่อได้ โดยจากการขอเข้าพบที่วัดทราบว่าพระราชรัชมุนีได้ไปจำพรรษาอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมที่ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบที่สำนักปฏิบัติธรรมสมเด็จพระมหามังคลาจารย์ ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่อยู่ในความดูแลของพระเทพมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน และรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการระบุว่าเป็นสถานที่ที่พระราชรัชมุนีได้ไปจำพรรษาอยู่ในช่วงก่อนหน้านี้
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ต.ค. 60 ที่ผ่านมาได้มีรถตู้สีดำเข้าไปรับและพาพระราชรัชมุนีออกไปโดยที่ไม่ได้เดินทางกลับเข้าไปอีก และไม่ได้เดินทางกลับไปที่วัดสวนดอก รวมทั้งไม่ทราบแน่ชัดว่าขณะนี้อยู่ที่ใดด้วย
นอกจากนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดทางกรมการปกครองมีการตรวจสอบแล้วว่าพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก น่าจะมีการสวมบัตรประจำตัวประชาชนผู้เสียชีวิต ซึ่งจะได้สั่งการให้ทางฝ่ายทะเบียนอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และฝ่ายทะเบียนของเทศบาลนครเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในฐานะผู้เสียหาย ที่พระราชรัชมุนี หรือนายนิมิต ทิพย์ปัญญาเมธี ได้เข้าไปทำบัตรประจำตัวประชาชน
ขณะที่เช้าวันนี้ (10 ต.ค.) นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ สวมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่เสียชีวิตแล้วที่จังหวัดชัยภูมิเพื่อให้ได้สถานะเป็นคนสัญชาติไทยว่า
จังหวัดเชียงใหม่ โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ และที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ มีการประชุมหารือดำเนินการเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว
เบื้องต้นมีข้อสรุปว่าจะทำการตรวจสอบประวัติของพระราชรัชมุนีอย่างละเอียด ทั้งที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม และที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาปัจจุบัน รวมทั้งมีการประสานข้อมูลอย่างละเอียดจากทางกรมการปกครองด้วย เพื่อให้ทราบชัดเจนว่าพระราชรัชมุนีมีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติโดยเร็วที่สุด พร้อมย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าทางกรมการปกครองมีการตรวจสอบแล้วพบว่าพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก น่าจะมีการสวมบัตรประจำตัวประชาชนผู้เสียชีวิตจริงนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานหรือแจ้งยืนยันใดๆ ทั้งสิ้นในเรื่องดังกล่าวจากกรมการปกครอง
ขณะที่กระแสข่าวว่าพระราชรัชมุนีได้หลบหนีไปแล้วนั้นส่วนตัวไม่ทราบ นอกจากนี้ระบุว่า อดีตในพื้นที่อำเภอแม่อาย และบางพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่เคยมีปัญหากรณีสวมบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต แต่ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาไปแล้ว