ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าของร้านลาบเชียงใหม่เปิดใจติดป้ายประชดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ้างคับข้องใจที่ถูกสั่งปิดร้าน 5 ปีเนื่องจากขายเบียร์ 2 ขวดนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด ยอมรับผิดแต่อ้างเป็นเพียงความผิดครั้งแรกและน่าจะแค่ตักเตือนเท่านั้นไม่น่าลงโทษรุนแรง เบื้องต้นประกาศเซ้งกิจการพร้อมขอให้รับพนักงานเดิมเข้าทำงาน ขณะเดียวกันเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมด้วย
จากกรณีที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งชื่อ “ยักษา” ที่ขายลาบและอาหารพื้นเมือง ตั้งอยู่ย่านสันติธรรมพลาซ่า ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการจัดกิจกรรมและติดป้ายเต็มหน้าร้านเพื่อประชดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่ถูกสั่งปิด 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 60 เป็นต้นไป เนื่องจากถูกตรวจสอบและจับกุมในความผิดขายเบียร์จำนวน 2 ขวดนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางร้านเห็นว่าเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจัดกิจกรรมและมีการโพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กของทางร้าน ซึ่งจากนั้นได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมากนั้น
นายเอกรินทร์ เจริญกิจ อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน “ยักษา” เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมและการติดป้ายประชดคำสั่งของเจ้าหน้าที่ว่า เนื่องจากรู้สึกคับข้องใจและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยยอมรับกระทำความผิดจริง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกและเป็นการขายเบียร์เพียง 2 ขวดเท่านั้น ซึ่งไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก รวมทั้งดำเนินการอุทธรณ์ต่างๆ ตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว แต่กลับมีการออกคำสั่งปิดร้าน 5 ปี ทำให้งุนงงอย่างมากเพราะเหตุดังกล่าวไม่ได้ร้ายแรงและน่าจะตักเตือนกันได้โดยไม่ต้องลงโทษขั้นรุนแรงเช่นนี้กับผู้ประกอบการที่เพียงเปิดร้านอาหาร ไม่ใช่สถานบันเทิง
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พนักงานของร้านกว่า 20 คนต้องได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีงานทำเนื่องจากร้านต้องปิด แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะมีการบอกว่าสามารถเปิดขายอาหารได้ แต่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ทางร้านไม่กล้าที่จะเปิดขายเพราะเป็นคำสั่ง คสช.และไม่แน่ใจในรายละเอียดของคำสั่งดังกล่าว ต้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมีการออกหนังสือให้ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ได้ปิดร้านและประกาศเซ้งกิจการแล้ว โดยขอให้ผู้ที่ต้องการจะเซ้งกิจการรับพนักงานเดิมทั้งหมดทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามยังไม่มีผู้ติดต่อเข้ามา นอกจากนี้กำลังพิจารณายื่นอุทธรณ์คำสั่งปิดร้านและจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองด้วยเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม