บุรีรัมย์ - อาจารย์ ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ที่เคยลงสมัครชิงตำแหน่งอธิการบดี และเป็นผู้ยื่นฟ้องศาลปกครอง กรณีที่สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งผู้ที่เกษียณอายุราชการ หรือมีอายุเกิน 60 ปีเป็นอธิการบดี เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หวั่นถูกกลั่นแกล้งและไม่ปลอดภัย หลังศาลพิพากษาให้เพิกถอนมติสภาฯ ตั้งอธิการบดี แต่ยังดื้อตั้งเป็นรักษาการแทน อ้างจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา
วันนี้ (20 ก.ย.) ผศ.ปัญญา เจริญพจน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งเคยลงสมัครชิงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพราะเกรงจะถูกกลั่นแกล้งและกลัวไม่ปลอดภัย
หลังได้นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นฟ้องศาลปกครอง กรณีที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์แต่งตั้ง รศ.มาลิณี จุโฑปะมา ซึ่งมีอายุเกิน 60 ปี และเกษียณอายุราชการแล้ว เป็นอธิการบดี กระทั่งเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยให้ยกเลิกมติสภามหาวิทยาลัยดังกล่าว และล่าสุดทางสภามหาวิทยาลัยได้มีการนัดประชุม และมีมติให้ รศ.มาลิณี นั่งรักษาการในตำแหน่งอธิการบดีฯ ไปก่อน ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน โดยทางสภามหาวิทยาลัยยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการละเมิดอำนาจศาลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การสรรหาและเลือกตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ดังกล่าวมีขึ้นเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา และให้มีการนำเสนอวิสัยทัศน์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ผศ.ปัญญา เจริญพจน์ กล่าวว่า กรณีที่ยื่นฟ้องศาลเกี่ยวกับการแต่งตั้งให้ รศ.มาลิณี ที่มีอายุเกิน 60 ปี ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว มาดำรงตำแหน่งอธิการบดีนั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งส่วนตัวอย่างแน่นอน แต่เพื่อต้องการทำให้เกิดความถูกต้อง เพราะตามระบบราชการที่กำหนดไว้ เมื่ออายุครบ 60 ปีต้องเกษียณอายุราชการ และทางสภามหาวิทยาลัยควรคัดสรรบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและได้รับเลือกตั้งจากสภามหาวิทยาลัยเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ทั้งเพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่บริหารพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ให้ก้าวหน้าต่อไป
ที่สำคัญ ขณะนี้ศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาให้ยกเลิกมติสภามหาวิทยาลัยดังกล่าวไปแล้ว แต่ทางสภายังฝืนแต่งตั้งให้ รศ.มาลิณีนั่งรักษาการอธิการบดีต่ออีก
ส่วนกรณีที่ตนมาแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ไว้เป็นหลักฐานในครั้งนี้เพราะเกรงจะถูกกลั่นแกล้งและไม่ปลอดภัย เพราะขณะนี้ทางสภามหาวิทยาลัยยังมีมติให้ รศ.มาลิณีรักษาการในตำแหน่งอธิการบดีอยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไปยังทางมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด