xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติลุยถึงอุดรฯ ติวเข้ม National e-payment กระตุ้นใช้บริการพร้อมเพย์-บัตรเดบิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เวทีให้ความรู้โครงการ National e-payment มุ่งสร้างความเข้าใจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่หอประชุมทองใหญ่ จ.อุดรธานี
อุดรธานี - ธนาคารแห่งประเทศไทย เดินสายลงพื้นที่ภูมิภาค ให้ความรู้ชาวอุดรธานี โครงการ National e-payment มุ่งสร้างความเข้าใจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกระตุ้นใช้บริการพร้อมเพย์ และบัตรเดบิต หวังพัฒนาประเทศไทยก้าวสู่ยุคการเงินดิจิทัล และยกระดับความสามารถการแข่งขัน

วันนี้ (8 ก.ย. 60) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่หอประชุมทองใหญ่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงการคลัง และสมาคมธนาคารไทย จัดสัมมนาเผยแพร่ความรู้และประชาสัมพันธ์ โครงการ National e-payment เพื่อสร้างความเข้าใจ และชี้ให้เห็นประโยชน์เกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-payment แก่ประชาชน สื่อมวลชน ผู้แทนสถาบันการเงิน และหน่วยงานราชการจังหวัดอุดรธานี มากกว่า 200 คนร่วมสัมมนา

พร้อมกระตุ้นการใช้บริการพร้อมเพย์ และบัตรเดบิต สนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคการเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นกลไกสำคัญช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน ช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศ
นางสาวศิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
น.ส.ศิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ให้ความรู้ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามโครงการ National e-payment และด้านประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายในทุกภาคส่วน หลังจากได้เปิดให้บริการพร้อมเพย์ตั้งแต่เดือนมกราคม 60 และเริ่มขยายติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่าเครื่อง EDC แก่ร้านค้า และหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการใช้บริการ e-payment นอกจากบริการที่สถาบันการเงิน และภาครัฐได้พัฒนาให้สามารถใช้งานสะดวก ปลอดภัยแล้ว อีกปัจจัยที่สำคัญคือ การสร้างความรู้ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ การจัดงานครั้งนี้มุ่งหวังจะให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปให้ข้อมูลต่อได้

สำหรับบริการพร้อมเพย์ ขณะนี้มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนสิงหาคม 60 มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 32 ล้านเลขหมาย และมียอดการโอนเงินสดสะสมกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนการวางเครื่อง EDC ได้มีการติดตั้งไปแล้วกว่า 150,000 ร้านค้าทั่วประเทศ

จาการติดตามผลพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าบัตรเอทีเอ็มที่มีนั้นเป็นบัตรเดบิตด้วยในตัว สามารถใช้ซื้อสินค้าได้โดยตรง หากลองสังเกตบัตรเอทีเอ็มที่มีอยู่ถ้ามีข้อความว่าเป็น เดบิตการ์ด หรือมีตราสัญลักษณ์ของผู้ให้บริการเครือข่ายบัตร ก็ใช้รูดซื้อของแทนเงินสดได้ ขณะนี้ภาครัฐได้อำนวยความสะดวก โดยร่วมกับสถาบันการเงินขยายการติดตั้งเครื่อง EDC ให้มากขึ้น เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชนที่จะเปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็นบัตรเอทีเอ็ม เดบิต แทน


อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนจากการใช้เงินสดมาเป็นการโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์ หรือการใช้บัตรเอทีเอ็ม เดบิตแล้ว ถือเป็นเป้าหมายหนึ่งของยุทธศาสตร์ National e -payment ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเป็น digital economy ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น