ตาก - น้ำป่าสีแดงขุ่นทะลักเต็มลำห้วย พัดร่างเด็กชายชาวพม่าวัย 4 ขวบหายข้ามคืนทิ้งแต่รองเท้าไว้ริมฝั่ง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาหลายชั่วโมงถึงกลางคืนไม่เจอจนต้องยุติชั่วคราว นัดพร้อม 09.00 น.วันนี้ลุยค้นหาอีกรอบ
ตำรวจ สภ.พบพระ จ.ตาก รับแจ้งมีเหตุเด็กถูกน้ำป่าพัดจมหายตัวไปในลำห้วยหนองน้ำเขียว รอยต่อระหว่างหมู่บ้านห้วยนกแล-หมู่บ้านดอนเจดีย์ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ เมื่อหัวค่ำวานนี้ (20 ส.ค.) จึงรีบวิทยุประสานฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ และชุดค้นหาทางน้ำสมาคมกู้ภัยพายัพ อ.พบพระ จัดกำลังเร่งไปค้นหา
จุดเกิดเหตุเป็นลำห้วยสายใหญ่ไหลผ่านสองหมู่บ้าน และพบชาวบ้านทั้งคนไทย-แรงงานชาวพม่านับร้อยคนที่ทราบข่าวร้ายต่างมามุงดูการค้นหาอย่างใจจดใจจ่อ รวมถึงนางโมอู ไม่มีนามสกุล อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า รอให้การเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจสุดชีวิต
เบื้องต้นนางโมอูให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำงานในสวนกุหลาบ และปล่อยเด็กชายเพียวเตอู ไม่มีนามสกุล อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นหลานชายที่พ่อ-แม่ของเด็กนำมาฝากให้ตนช่วยเลี้ยงดู จนเวลาผ่านไปไม่นานตนกลับมาที่บ้านแต่ไม่พบเด็กชายเพียวเตอู ก็ตกใจรีบวิ่งไปค้นหารอบๆ บ้านแต่ไม่พบตัว
เมื่อวิ่งไปค้นหาที่บริเวณริมตลิ่งลำห้วย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก พบรองเท้าของหลานชายตกอยู่ริมลำห้วย และน้ำในลำห้วยก็กลายสภาพจากน้ำใสปกติเป็นสีแดงขุ่นอย่างน่ากลัว ตนจึงสันนิษฐานว่าหลานชายน่าจะลงเล่นน้ำในลำห้วยแล้วถูกน้ำป่าพัดหายไปอย่างแน่นอน จึงรีบวิ่งไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ให้มาช่วยค้นหา
ซึ่งหลังจากทีมค้นหาทางน้ำจากสมาคมกู้ภัยพายัพได้รับแจ้งข้อมูลเบื้องต้นจึงได้รีบประชุมแผนการค้นหาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากระดับน้ำในลำห้วยขณะนั้นมีสีแดงขุ่น และไหลรุนแรง เนื่องจากเป็นน้ำป่าจากยอดดอยสูง
จากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติการค้นหา แต่การปฏิบัติงานก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังออกค้นหาในรัศมีไกลกว่า 1 กิโลเมตร รวมทั้งจัดกำลังออกเดินเท้าตรวจสอบตามริมตลิ่งของลำห้วยนานหลายชั่วโมงก็ไม่พบตัวเด็กชายที่สูญหาย
และในที่สุดต้องยกเลิกปฏิบัติการค้นหาลงชั่งคราว เนื่องจากประสบปัญหาด้านความมืดยากต่อการค้นหา ประกอบกับที่บริเวณเชิงเขา ซึ่งเป็นต้นน้ำของลำห้วยแห่งนี้มีรายงานว่ามีฝนตกหนักขึ้นมาอีกครั้ง เกรงจะไม่ปลอดภัยต่อทีมค้นหา จึงจำเป็นต้องยกเลิกการค้นหาลงชั่วคราว ก่อนจะระดมกำลังทีมกู้ภัยออกค้นหาตัวเด็กชายวัยสี่ขวบรายนี้อีกครั้งในเช้าวันนี้ (21 ส.ค.)