ศรีสะเกษ- เจ้าหน้าที่ลาวยังไม่ยอมให้เข้าไปตรวจสอบศพหญิงนิรนามที่พบกลางป่าทึบบริเวณชายแดน ด้าน อ.นาจะหลวย อุบลฯ ว่าเป็นสาว อบต.ศรีสะเกษที่ถูกอุ้มหายหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ได้มีการประสานงานตามขั้นตอนข ต้องปรับแผนส่งญาติ 8 คน เข้าไปตรวจพิสูจน์บริเวณต้องสงสัย เผยระหว่างทางพบถุงมือยางสีฟ้า 3 คู่ รองเท้ายาง 1 คู่ ถูกเผา
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานคืบหน้า น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ อ้อย อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปพร้อมรถยนต์เก๋งอย่างมีเงื่อนงำ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา นานกว่า 1 เดือน ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. 60 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาดำเนินนคดี กับ ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ใน 4 ข้อหา โดย ร.อ.ศุภชัย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า พบศพหญิงไม่ทราบชื่อถูกห่อด้วยพลาสติก ทิ้งบริเวณชายแดนไทย - ลาว ด้านสามเหลี่ยมมรกต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ นายสนองศักดิ์ ยินธนานนท์ ผู้ใหญ่บ้านซำเม็ง นายวิทยา เกษแก้ว สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่หายตัวไป พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ศรีไชย ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ ตชด. และเจ้าหน้าที่เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย และญาติพี่น้อง ได้พากันเดินบุกป่าเป็นระยะทาง ประมาณ 5 กม. เข้าไปยังพลาญตอกเลข ซึ่งอยู่ติดกับชายแดน สปป.ลาว
ทั้งนี้ เพื่อไปตรวจพิสูจน์ว่าศพหญิงนิรนามที่ห่อด้วยพลาสติก ตามที่ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านของประเทศลาวนั้น เป็นศพญาติของตนหรือไม่ ซึ่งการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องเดินทางฝ่าป่าทึบ ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปราย ซึ่งเมื่อไปถึงพลาญตอกเลข อีกเพียงไม่กี่เมตรจะเข้าเขตแดนลาว จากการที่เจ้าหน้าที่ของไทยได้ประสานงานทางโทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ของลาวแล้ว ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของลาวไม่อนุญาตให้ทีมค้นหาเข้าไปที่บริเวณต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง เนื่องจากไม่มีการประสานงานอย่างเป็นทางการ
ดังนั้น นายก อบต.เสาธงชัย ร่วมกับ นายบัวกัน อุ่นอ่อน จึงได้จัดชุด จำนวน 8 คน นำโดย นายวิทยา เกษแก้ว สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ เดินป่าเข้าไปที่บริเวณผานางอิง ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับแจ้งว่า พบศพหญิงนิรนาม
นายบัวกัน อุ่นอ่อน อาของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้ามาพิสูจน์บริเวณผานางอิง ว่า เป็นร่างของ น.ส.จุฑาภรณ์ หรือไม่นั้น เป็นไปด้วยความยากลำบากมาก เนื่องจากจุดที่พบศพอยู่ติดกับเขตแดนลาว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ของลาวไม่อนุญาตให้เข้าไปที่เกิดเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม พวกตนก็ต้องการที่จะพิสูจน์ว่า ศพหญิงผมยาวดังกล่าวเป็นศพของใคร หากว่าเป็นศพของ น.ส.จุฑาภรณ์ ซึ่งนายวิทยา เกษแก้ว สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ที่เข้าไปตรวจพิสูจน์ ยืนยันว่า เป็นร่างของ น.ส.จุฑาภรณ์ ก็จะนำศพออกมาทันที
ขณะนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อปัญหาชายแดน ทางเจ้าหน้าที่ของไทยจึงได้ถอยร่นเข้ามาในเขตแดนไทย ประมาณ 2 กม. และรอชุดที่เข้าไปตรวจพิสูจน์กลับออกมา ซึ่งตนต้องขอขอบคุณคณะเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนของไทยที่ให้ความร่วมมือเดินทางมาพิสูจน์ในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่คณะเจ้าหน้าที่เดินลุยป่าเข้าไปที่บริเวณพลาญตอกเลขนั้น ได้พบถุงมือยางสีฟ้า จำนวน 3 คู่ ถูกเผาอยู่ข้างทาง ซึ่ง พ.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ ศรีไชย ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งได้พบรองเท้ายาง จำนวน 1 ข้าง ถูกเผาห่างจากจุดที่พบถุงมือยาง ประมาณ 1 กม. อีกด้วย ข่าวคืบหน้าจะได้รายงานต่อไป