ศรีสะเกษ - สภาทนายความ จ.กันทรลักษ์ยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้านคดี “สาว ผอ.อบต.ชำ” ศรีสะเกษ ทหารทมิฬอุ้มหาย ชี้คดีนี้มีช่องทางหลายส่วนจะต้องเพิ่มเติมให้รัดกุมสามารถลากคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้ เผยเมื่อคดีส่งฟ้องศาลจะยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการเพื่อช่วยเหลือด้านกฎหมายได้อย่างเต็มที่ ขณะพ่อเหยื่อยืนยันยังไม่พบศพลูกสาวที่หายตัวไปตามที่สื่อบางสำนักเสนอข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีอุ้ม น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรืออ้อย อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 60 นานกว่า 1 เดือน ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. 60 พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อ ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี จำนวน 4 ข้อหาและผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ขณะที่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และสามี ได้ระดมค้นหาในป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และเขตรอยต่อ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่สงสัยจะเป็นที่ซุกซ่อนตัวของ น.ส.จุฑาภรณ์กันอย่างต่อเนื่องกว่า 5 วันแล้ว แต่ยังไม่พบร่างของ น.ส.จุฑาภรณ์แต่อย่างใด ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ (17 ส.ค.) ที่บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิศักดิ์ ฝอยทอง ประธานสภาทนายความจังหวัดกันทรลักษ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการของสภาทนายความ ได้เดินทางมาพบกับ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี และ นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ซึ่งเป็นพ่อและอาของ น.ส.จุฑาภรณ์ ซึ่งนายบัวกันได้เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ประธานสภาทนายความ จ.กันทรลักษ์ และคณะได้รับทราบเพื่อให้รู้ถึงความเป็นมาของคดีนี้ ขณะที่นายบุญเลิศยังคงอยู่ในอาการเครียด เนื่องจากระยะเวลาผ่านไปนานแล้วยังไม่พบลูกสาวที่หายไปแต่อย่างใด
นายประสิทธิศักดิ์ ฝอยทอง ประธานสภาทนายความ จ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ตนและคณะได้รับการร้องขอจาก นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของผู้ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ซึ่งตนได้รายงานเรื่องนี้ให้สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้รับทราบแล้ว เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือทางด้านกฎหมายอย่างเต็มที่ และจากการที่ได้ติดตามคดีนี้แล้วเห็นว่ามีช่องทางหลายส่วนที่จะต้องเพิ่มเติม เพื่อให้คดีมีความรัดกุม สามารถเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไปได้
นายประสิทธิศักดิ์กล่าวต่อว่า ตนและคณะกรรมการสภาทนายความ จ.กันทรลักษ์ ทุกคน พร้อมที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือนายบุญเลิศ และญาติพี่น้อง ในคดีนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้ว และเมื่ออัยการสั่งฟ้องแล้วสภาทนายความจะเข้ายื่นคำร้องต่อศาลขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้จะสามารถนำเอาคนผิดมาลงโทษได้ตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ทางด้าน นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า กรณีที่มีสื่อบางแห่งเสนอข่าวว่าพบศพลูกสาวของตนถูกเผาเหลือแต่เสื้อและรองเท้านั้น ขอยืนยันว่าจนกระทั่งบัดนี้ยังไม่ได้พบลูกสาวของตน ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดแต่อย่างใด บรรดาญาติพี่น้องและสามีของลูกสาวกำลังเร่งค้นหาในป่าตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาวนาว่าขอให้พบตัวอ้อย ลูกสาวของตนโดยเร็วด้วย