ลำปาง - หลังกลุ่มรักษ์ป่าเหียงคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะจนโครงการถูกยกเลิก ผ่านมา 3 ปีวันนี้ป่าชุมชนอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมกลายเป็นเซเว่นธรรมชาติให้ชาวบ้านได้เข้ามาหาเห็ดตามฤดูกาลตลอดปี สร้างรายได้นับพันบาทต่อคนต่อวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดลำปางแจ้งว่า ที่บริเวณป่าชุมชนบ้านป่าเหียง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งมีพื้นที่กว่า 350 ไร่ วันนี้ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้สูงใหญ่เขียวขจี ชาวบ้านจากหมู่บ้านและตำบลใกล้เคียงต่างพากันมาเดินเก็บเห็ดตามธรรมชาติกันอย่างคึกคักทุกวัน ซึ่งป่าแห่งนี้เป็นป่าบนพื้นราบ ทำให้การเดินทางเข้ามาหาเห็ดในป่าแห่งนี้เป็นไปอย่างสะดวกสบาย ผู้สูงอายุก็สามารถเดินหาเห็ดได้ และยังเป็นการออกกำลังกาย อากาศไม่ร้อนเพราะในป่ามีต้นไม้สูงคอยบังแสงแดด
คุณยายแสงทอง กองจินา อายุ 59 ปี เล่าว่า ป่าแห่งนี้มีมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดหลายอายุคนแล้ว ชาวบ้านจะเข้ามาหาของป่า ทั้งผัก ทั้งเห็ดกันตลอดทั้งปี แม้แต่อึ่งอ่างก็มี ถือว่าเป็นป่าที่สมบูรณ์อย่างมาก และในช่วงนี้ที่มีฝนตกชาวบ้านก็จะพากันมาหาเห็ด ใครว่างเวลาไหนก็เดินมา ตนเช้าก็ต้องทำอาหารหลังว่างแล้วก็จะออกมาหาเห็ด บางวันก็จะใช้เวลาชั่วโมงสองชั่วโมงตามที่สะดวก ก็จะได้ทุกวันเพราะเห็ดจะขึ้นตลอด
ทุกคนที่มาเก็บเห็ดก็จะได้ทุกคนมากบ้างน้อยบ้าง คนที่คุ้นเคยสถานที่รู้แหล่งที่ออกมากก็จะได้เยอะ ส่วนคนนอกพื้นที่ที่ไม่ค่อยรู้จุดที่เห็ดออกเป็นกลุ่มก็อาจจะได้น้อยหน่อย แต่ทุกคนได้เห็ดติดมือกลับบ้านไปทำอาหารและจำหน่าย ซึ่งเห็ดบางชนิดจำหน่ายกิโลกรัมละ 300-400 บาท ทำให้ชาวบ้านบางคนมีรายได้วันละกว่าพันบาท บางคนหยุดทำอาชีพอย่างอื่นมุ่งหน้ามาหาเห็ดอย่างเดียวในช่วงนี้เพราะถือว่าเป็นการหารายได้ที่ดีและไม่เหนื่อย บางคนนำไปแปรรูปเก็บไว้เพื่อนำไปขายในช่วงที่เห็ดตามฤดูกาลหมดก็จะได้ราคาสูงขึ้นอีก
ส่วนเห็ดที่เก็บได้ในพื้นที่แห่งนี้ก็จะมีเกือบทุกชนิด เช่น เห็ดหล่ม หรือเห็ดด่าน เห็ดหน้าแดง เห็ดระโงกเหลือง เห็ดระโงกขาว เห็ดตับหมาก เห็ดโคน เห็ดปลวกตาบ เห็ดหลวกจิก เป็นต้น ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะนำมาแกง ตำน้ำพริก ผัดกะเพรา ผัดพริกแกง ต้มเค็มกินกับน้ำพริก เป็นต้น ถือว่าเป็นอาหารเลิศรสหนึ่งปีจะได้กินหนึ่งครั้งเท่านั้น
สำหรับป่าชุมชนบ้านป่าเหียงแห่งนี้ เมื่อสามปีที่ผ่านมาชาวบ้านเกือบจะต้องสูญเสียป่าชุมชนแห่งนี้ไป เนื่องจาก บริษัท วีพีเอ็น แอนด์ ไซมิสทริค จำกัด มีแผนจะเข้ามาก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำจากสิ่งของเหลือใช้ หรือขยะ ขนาด 6.5 เมกะวัตต์ในพื้นที่ป่าแห่งนี้รวม 142 ไร่ ทำให้ชาวบ้านจาก 8 หมู่บ้าน คือ บ้านป่าเหียง, บ้านทุ่งกู่ด้าย, บ้านบ่อแฮ้ว, บ้านง้าวพิชัย, บ้านหัวทุ่งหนองขาม, ท่าขัว, บ้านสันกลาง และบ้านม่วงแงว รวมตัวออกมาแสดงพลังคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะดังกล่าวในทุกรูปแบบ
พร้อมกับตั้งกลุ่ม ชื่อว่า “กลุ่มรักษ์ป่าเหียง” ขึ้น เพื่อยกระดับและผนึกกำลังเชิญนักวิชาการที่มีความรู้ด้านวิศวกรรมอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม และบุคคลที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ข้อมูลและร่วมคัดค้านและจัดกิจกรรมให้ความรู้ชาวบ้านออกรณรงค์คัดค้านทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้ทุกวิถีทางจนสุดท้ายนายทุนยอมยกธงขาวล้มเลิกโครงการ ทำให้ชาวบ้านกลับมาช่วยกันฟื้นฟูและเข้ามาช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มเติม จนถึงวันนี้ก็พบว่าป่าชุมชนบ้านป่าเหียงมีอาหารธรรมชาติหล่อเลี้ยงทั้งคนในหมู่บ้าน และยังเผื่อแผ่ไปถึงชาวบ้านในหมู่บ้าน ตำบล ใกล้เคียงอีกจำนวนมากด้วย
