xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรฯ สงขลา-สตูล แถลง “ปกป้องบ้านเกิด..ไม่ผิด” หวังภาครัฐต้องทบทวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสงขลา-สตูล ออกแถลงการณ์ “ปกป้องบ้านเกิด..ไม่ผิด” หวังภาครัฐต้องทบทวน เพราะมิใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา วอนให้มีการเปิดกว้างพร้อมยอมรับการแสดงออกของประชาชน ที่กล้าออกมาปกป้องบ้านเกิดโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด

การตื่นตัวของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ และจากนโยบายของรัฐบาล ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่พึงกระทำได้ หลายปีที่ผ่านมา เครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสงขลา-สตูล ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวของของประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ “แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล” อันเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่เคยถูกยอมรับจากส่วนราชการใดๆ ทั้งสิ้น

แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และมีการเดินหน้าโครงการเหล่านี้ค่อยๆ คืบคลานอย่างเป็นระบบ นั่นคือโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล โครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 (บ้านสวนกง) จ.สงขลา และโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่เพื่อเชื่อมท่าเรือทั้งสองฝั่ง คือ รูปธรรมภายใต้ยุทธศาสตร์เชื่อมสองฝั่งทะเล หรือเชื่อมโครงข่ายคมนาคมระหว่างทะเลอ่าวไทย-อันดามัน

ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังมีกิจกรรม หรือโครงการที่เกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น คือโครงการสร้างเขื่อน สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน (เทพา) และจะเชื่อมสายส่งไฟฟ้าตัดผ่านผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง รวมถึงป่าผาดำ จ.สงขลา มายัง จ.สตูล สุดท้ายก็จะจบด้วยการใช้พื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
 

 
การตื่นรู้ แล้วลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของชุมชน ตลอดเส้นทางในหลายชุมชนระหว่างสงขลา-สตูล ในนามเครือข่ายประชาชนปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งสองฝั่งทะเล จนได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มแกนนำทั้ง 2 จังหวัด ด้วยหวังที่จะห้ามปราม และปิดกั้นการแสดงออกเพื่อดำรงไว้ซึ่งสิทธิของตน จึงถือเป็นวิธีการที่ไม่อาจจะยอมรับได้ ด้วยความเชื่อของพวกเราที่ว่า “การปกป้องบ้านเกิดถือว่าไม่ผิด” เพราะทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้หวังประโยชน์ส่วนตน หากเป็นการรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของส่วนรวมทั้ง 2 จังหวัด และของคนไทยทั้งประเทศ

การใช้วิธีการทางกฎหมายเพื่อมาปิดกั้นการแสดงออกในสิทธิของชุมชน จึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐจะต้องทบทวน เพราะมิใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหาอย่างแน่นอน เราจึงขอเรียกร้องให้มีการเปิดกว้าง พร้อมกับยอมรับต่อการแสดงออกของประชาชน ที่กล้าออกมาปกป้องบ้านเกิดของตนโดยไม่เกรงกลัวใดๆ ทั้งสิ้น บนพื้นที่ของประโยชน์ส่วนรวม และขอให้รัฐ และข้าราชการในพื้นที่หันกลับไปแก้ไขปัญหาที่แท้จริง ตามข้อเรียกร้องที่เครือข่ายฯ ได้เสนอไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พวกเราทั้งหมดยังยืนยันร่วมกันว่า จะเดินหน้าแสดงออกตามสิทธิของตนอย่างถึงที่สุด จนกว่าโครงการเหล่านั้นจะหายไปจากชุมชนของเรา

แถลง ณ สำนักงานอัยการจังหวัดสตูล วันที่ 31 กรกฎาคม 2560
 





กำลังโหลดความคิดเห็น