xs
xsm
sm
md
lg

เอ๊ะยังไง!? ตร.เบี้ยวส่งอัยการคดี 9 ผู้ต้องหา “ปกป้องปากบารา” ปล่อยเครือข่ายภาคประชาชนฯ นับร้อยคอยเก้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - ตำรวจเบี้ยวส่งอัยการคดี 9 ผู้ต้องหา “ปกป้องปากบารา” เครือข่ายภาคประชาชนสองฝั่งทะเลนับ 100 คน ต้องรอคอยเก้อ ก่อนเดินขบวนชูธงเขียวบุกกองบังคับการตำรวจทวงถามสาเหตุ และผู้ว่าฯ ถึงความคืบหน้าของโครงการท่าเรือฯ เพื่อนำประกอบคดี

วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการจังหวัดสตูล ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ได้แก่ 1.นายไกรวุฒิ ชูสกุล 2.นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี 3.นางเจ๊นะ วัฒนพันธ์ 4.นายสมบูรณ์ คำแหง 5.นายเชาวลิต ชูสกุล 6.นายปฎิหาร์ บุญรักษ์ 7.นายเอกชัย อิสระทะ 8.นายหมัด ระหมันยะ (อิหม่ามมัสยิดบ้านสวนกง) และ 9.นายเจะปิ อนันตทบริพงษ์ (คณะกรรมการมัสยิด) ถูกตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ หลังเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 หรือเวที ค.1 โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ที่โรงเรียนบ้านปากบาง อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่ 15-16 มีนาคม 2560
 

 
พร้อมทีมทนายความ 9 คน นำโดย นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เดินทางเข้าพบสำนักงานอัยการจังหวัดสตูล หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนผู้ดูแลสำนวนในคดีนี้ แจ้งว่า พร้อมวันนี้ (31 ก.ค.2560) จะเดินทางมาส่งสำนวนต่ออัยการจังหวัดสตูล ทำให้เครือข่ายประชาชนสองฝั่งทะเล จ.สงขลา และ จ.สตูล กว่า 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจ 9 ผู้ต้องหา พร้อมทีมทนาย 9 คน ที่อัยการจังหวัด

แต่หลังจากทุกคนเดินทางมาถึงกลับได้รับการประสาน ว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวไม่สามารถเดินทางมาส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดได้ เนื่องจากยังไม่มีการเซ็นเอกสารรับรองสำนวนจากผู้บังคับบัญชา ทำให้ไม่สามารถเดินทางมายื่นเรื่องต่ออัยการจังหวัดได้
 

 
จนสร้างความมึนงง และตำหนิต่อการกระทำของตำรวจดังกล่าว ที่บอกนัดทีมทนายความ และชาวบ้าน แต่กลับไม่ให้ความใส่ใจ และเห็นใจชาวบ้าน เครือข่ายประชาชนสองฝั่งทะเลที่ต้องเดินทางมาจาก จ.สงขลา และในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล พร้อมจูงลูกเด็กเล็กแดงมาอีกด้วย ที่ต้องลางานมาเพื่อเป็นห่วงคนในครอบครัว และญาติพี่น้องเพื่อติดตามคดี แต่กลับไม่มีการโทร.แจ้งล่วงหน้า ทั้งที่มีเบอร์โทรศัพท์ทุกคนที่เป็นผู้ต้องหา และตำรวจกลับปล่อยให้ชาวบ้านมาคอยเก้อ

ด้าน นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน กล่าวว่า วันนี้ยอมรับว่ามาเสียเวลามาก เพราะตำรวจอ้างว่าสำนวนเอกสารไม่เสร็จสิ้น แต่ไม่ยอมบอก หรือแจ้งแก่ทางเรา นั่นหมายถึงการทำงานของตำรวจคืออะไร แต่อย่างไรก็ตาม จะมาอีกครั้ง ซึ่งทางตำรวจก็ควรทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น เมื่อไม่พร้อมก็ควรจะแจ้งมา
 

 
จากนั้น เครือข่ายประชาชนสองฝั่งทะเลสงขลา-สตูล จึงเดินเท้าจากสำนักงานอัยการจังหวัด มุ่งหน้าสู่สำนักงาน ทสจ. เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าหนังสือที่ส่งมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และมุ่งหน้ามายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล เพื่อสอบถามถึงสาเหตุการผิดนัดการส่งสำนวนคดี 9 ผู้ต้องหาต่ออัยการในครั้งนี้

โดยเสนอ 3 ข้อต่อ พ.ต.อ.สุนทร ขวัญเพ็ชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งออกมารับเรื่องว่า ในครั้งต่อไปจะไม่มีการเบี้ยวนัดกันอีก ระหว่างเครือข่ายประชาชนสองฝั่งทะเล พร้อมทั้งให้มีการตรวจสอบทีมพนักงานสอบสวนว่า ไปประชุมต่างจังหวัดจริงหรือไม่ตามกล่าวอ้าง และให้มีการตรวจสอบวินัยการทำงานของทีมสอบสวน ถึงการปฏิบัติต่อประชาชน จากนั้นผู้ต้องหา 9 คน ได้ลงบันทึกประจำวัน สภ.เมืองสตูล ไว้เป็นหลักฐานของการเดินทางมาตามคำนัดหมายของพนักงานสอบสวนแล้ว
 

 
จากนั้น ขบวนเครือข่ายประชาชนสองฝั่งทะเล ได้เดินทางต่อไปยังศาลากลางจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย โดยทวงถามข้อมูลการดำเนินงานของจังหวัด ถึงโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา โดยบริษัทที่ปรึกษาว่ามีการรายงานล่าสุดเป็นเช่นไร มีคำสั่งใดๆ ออกมาจากจังหวัดหรือไม่ เพื่อขอสำเนาไปประกอบในคดี 9 ผู้ต้องหา และขอความอนุเคราะห์กองทุนยุติธรรม เพื่อช่วยชาวบ้านที่ออกมาปกป้องบ้านเกิดต่อผู้ว่าราชการจังหวัด

ซึ่ง พ.อ.อาทิตย์ อรุณโชติ รอง ผอ.รมน.จว.สตูล ออกมารับเรื่อง และยืนยันว่า จังหวัดไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ แต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ประสานงานให้แก่กรมเจ้าท่า และบริษัทเท่านั้น ซึ่งจะให้คำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรให้ และยินดีที่จะให้ชาวบ้านที่ต้องคดี 9 คน ใช้บริการกองทุนยุติธรรม ซึ่งตนก็ยินดีที่จะให้ตำแหน่งในการประกันตัวในครั้งนี้เช่นกัน ส่วนทิศทางการพัฒนาจังหวัด พร้อมจะเป็นคนประสานให้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด และเครือข่ายประชาชนสองฝั่งทะเล เพื่อพูดคุยให้เข้าใจตรงกัน จนสร้างความพอใจแก่ชาวบ้านต่างพากันเดินทางกลับในเวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา
 
กำลังโหลดความคิดเห็น