หนักแน่ ศธจ.-สตง.สอบทุกเม็ด ผอ.โรงเรียนฉาว ครูทวงเงินเลื่อนขั้น-ผู้ปกครองขยับทวงแป๊ะเจี๊ยะ

ลำปาง - ผู้ปกครอง นร.อนุบาลลำปางขยับรวมหลักฐานจ่ายเงิน-กดดันกรรมการสถานศึกษา ทวงเงินแป๊ะเจี๊ยะ ผอ.คืนโรงเรียน ขณะที่ครูทวงเงินเลื่อนขั้นซ้ำ ด้านกรรมการสอบ ศธจ.-สตง.เดินหน้าสอบผู้เกี่ยวข้อง สาวลึกตั้งแต่เริ่มตั้งสำนักฯ ผอ. ยันอดีตกรรมการสอบเรื่องร้องเรียนชุดก่อน

วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลลำปางตั้งสำนักผู้อำนวยการฯ ขึ้นมารับ-ใช้เงินของโรงเรียนอย่างมีเงื่อนงำ ในห้วง 4 ปีที่ผ่านมา (57-60) รวมกว่า 42 ล้านบาท รวมทั้งให้ลูกน้องรับหนี้สินแทนนับสิบๆล้านบาท กระทั่งมีการร้องเรียนตามข่าวที่ “MGR Online , ผู้จัดการ360” นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การสั่งย้าย-ตั้งกรรมการสอบ ผอ.ร.ร.คนดังกล่าว

ล่าสุดแหล่งข่าว ซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ปกครองนักเรียน ได้เริ่มนัดรวมตัวกัน เพื่อหารือกันว่า ที่ผ่านมาผู้ปกครองแต่ละคนได้จ่ายเงินให้ทางสำนักงาน ผอ.ร.ร.อนุบาลลำปาง ในเรื่องใดบ้าง และมีหลักฐานใดๆยืนยันหรือไม่

ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ปกครองบางส่วนระบุว่า นอกจากจ่ายค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ และอื่นๆ ตามที่โรงเรียนจัดขึ้นแล้ว ยังต้องจ่ายเงินค่าเข้าชั้นอนุบาล หรือแป๊ะเจี๊ยะมากถึงรายละ 2 หมื่นบาท และต้องจ่ายเงินอีกครั้งในช่วงจากอนุบาล 2 จะขึ้น ป.1 อีกคนละกว่า 4 พันบาท โดยไม่มีใบเสร็จใดๆทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ผู้ปกครองหลายรายบอกว่า พร้อมนำข้อมูลมายืนยันหากมีการเรียกสอบจริง เพราะต้องการให้นำเงินที่จ่ายไปกลับมาให้โรงเรียน ซึ่งขณะนี้ตัวแทนผู้ปกครองอยู่ระหว่างประสานงานผู้ปกครองแต่ละคนเพื่อให้แจ้งชื่อ และแจ้งจำนวนเงินที่จ่ายไป เพื่อรวบรวมข้อมูลยื่นเรื่องร้องเรียน และอาจจะต้องแจ้งความดำเนินคดีด้วย

ผู้ปกครองนักเรียน ร.ร.อนุบาลลำปางยังตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่มีข่าวเรื่องความไม่โปร่งใสในโรงเรียนอนุบาลลำปาง แต่ทำไมคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลลำปางไม่ออกมาแสดงบทบาทใดๆ เลย จึงได้ส่งตัวแทนผู้ปกครองเด็กนักเรียนเข้าไปติดตามขอรายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลลำปาง

โดยจุดแรก ตัวแทนผู้ปกครองได้เข้าไปขอข้อมูลที่สำนักงานผู้อำนวยการฯ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ได้ แจ้งว่า “ให้ไปขอที่ห้องวิชาการ” หลังจากผู้ปกครองนักเรียน ไปที่ห้องวิชาการ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามรายละเอียดว่า เป็นใคร และถามสาเหตุของการขอว่านำรายละเอียดของคณะกรรมการฯไปทำอะไร และสุดท้ายก็ไม่ยอมให้ข้อมูล โดยให้ผู้ปกครองนักเรียนไปพบรองผู้อำนวยการฯ

เมื่อตัวแทนผู้ปกครอง ไปติดต่อ รอง ผอ.ร.ร.ฯ ยังได้ซักประวัติและสอบถามว่า จะนำรายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษาฯไปทำอะไร ผู้ปกครองคนดังกล่าว ได้บอกว่า “ต้องการทราบชื่อ เพื่อจะส่งเอกสารบางอย่างไปให้” สุดท้าย รอง ผอ.ก็ปฎิเสธอีก บอกเพียงว่า ประธานสถานศึกษาฯ คือ นายสมพร วะเท ส่วนรายชื่อคณะกรรมการฯท่านอื่นๆ ไม่สามารถให้ได้

ด้านนางสุรณี กัลยารัตนกุล หรือครูต้อย อดีตเลขาส่วนตัวของนายประยูร เรียนปิงวัง ผอ.ร.ร.อนุบาลลำปาง ซึ่งเป็นผู้ออกมาร้องเรียน และขอความช่วยเหลือจากสื่อ หลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้และกำลังจะถูกฟ้อง กว่า 10 ล้านบาท ระบุว่า ตนเองกู้ยืมเงินเจ้าหนี้ตามคำสั่งของ ผอ. แต่เมื่อทวงถาม ผอ.กลับบ่ายเบี่ยง และถูกต่อว่าตลอดมา จนสุดท้าย ผอ.ไม่ให้เข้าพบ จนตนเองหมดหนทาง จึงไปร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม และ สพป.ลำปาง เขต 1 จนกลายเป็นเรื่องโด่งดังไปทั่วประเทศและขณะนี้ สพป.ลำปางเขต1 ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้ ผอ.หยุดการทำงานและให้ไปทำงาน ณ สพป.ลำปางเขต 1 ก่อนนั้น

ขณะนี้ตน และเจ้าหนี้อีกหลายคน ได้เดินทางไปเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายประยูร เรียนปิงวัง ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง แล้ว แต่เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.ณรงค์ อินตา พงส. สภ.เมืองลำปาง บอกกับตน และเจ้าหนี้ว่า ไม่สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งความดำเนินคดีได้ เนื่องจากเป็นคดีทางแพ่ง แต่ให้ลงเพียงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนจะปรึกษาทางทนายความอีกครั้งว่า จะดำเนินการทางคดีอย่างไรต่อไป

แหล่งข่าวภายในสถานศึกษาได้ระบุว่า ทุกวันนี้ สตง.ยังคงเข้ามาสอบบุคลากรภายในโรงเรียนทุกวัน ส่วนคณะกรรมการที่ ศึกษาธิการจังหวัดลำปาง (ศธจ.ลำปาง) ตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนวินัยร้ายแรง ผอ.คนดังกล่าว ทราบว่าได้มีการทยอยสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งมีชื่อในบันทึกรายรับรายจ่ายที่ครูต้อยได้จดไว้ คาดว่าจะโยงใยไปถึงอีกหลายคน และอาจจะถึงขั้นขุดรากถอนโคน

“การสอบรายรับรายจ่ายย้อนหลังไปตั้งแต่เริ่มมีการตั้งสำนักงานผู้อำนวยการขึ้นมากันเลยทีเดียว ซึ่งระยะแรกมี รอง ผอ.บางท่านทำหน้าที่ หัวหน้าสำนักงานฯ ด้วย และที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ อาจจะมีการสอบย้อนหลังไปถึงคนที่เคยเป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผอ. กรณีที่เคยมีการร้องเรียน ไปก่อนหน้านั้นแต่เรื่องยุติไปด้วย”

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ขณะนี้ครูในโรงเรียนเริ่มมีการเคลื่อนไหว และอาจจะมีการออกมาแฉกรณีที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อเป็นค่าเลื่อนตำแหน่ง หรือเลื่อนขั้นๆละ 25,000 บาท ขณะที่ภรรยา ผอ.คนดัง กลับได้รับการเลื่อนขั้นทุกปีด้วย