xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมสั่งรื้อบ้านเช่า 20 ราย รุกคลองนกยางพัทยา หวังแก้มลพิษ น้ำท่วมขัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาสภาพพื้นที่ภายในคลองนกยาง เตรียมใช้มาตรการเด็ดขาดสั่งรื้อถอนบ้านเช่า 20 ราย รุกคลองสาธารณะ หวังแก้ปัญหามลพิษ น้ำท่วมขัง ขณะที่ผู้พักอาศัยในชุมชนดั้งเดิมเสนอแผนเยียวยาหาที่อยู่ให้ใหม่ พร้อมประสานการเคหะแห่งชาติ เตรียมบ้านเอื้ออาทรเพื่ออยู่อาศัย

วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาสภาพพื้นที่ภายในคลองนกยาง บริเวณหลังชุมชนวัดช่องลม หลังจากที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่า มีการปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยรุกล้ำบริเวณแนวลำคลองสาธารณะ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาน้ำท่วมขัง และมลพิษในลำคลองจากการปล่อยน้ำเน่าเสีย และสิ่งปฏิกูลลงสู่ลำน้ำที่ถือเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในลักษณะป่าโกงกางแหล่งสุดท้ายของพื้นที่เมืองพัทยา

จากกรณีดังกล่าว เมืองพัทยาจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อกำหนดนโยบายในการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่า ปัจจุบันแนวคลองนกยาง มีผู้บุกรุกคลองสาธารณะ โดยเฉพาะในช่วงบริเวณหลังวัดช่องลม ซึ่งกินพื้นที่ 22 ไร่ 2 งาน 888 ตารางวานั้น มีอาคารบุกรุก จำนวน 150 หลัง แบ่งเป็นบ้านพักอาศัย ร้านค้า จำนวน 130 หลัง และห้องเช่า 20 หลัง โดยมีผู้แสดงเอกสารสิทธิ 1 ราย

นายวิเชียร กล่าวว่า ในเร็ววันนี้ปัญหาของคลองนกยาง ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง หลังปล่อยให้เป็นปัญหาคาราคาซังมาเป็นเวลานาน ซึ่งเมืองพัทยา จะอาศัยอำนาจที่มีอยู่ และกฎหมายพิเศษตามนโยบายของ คสช.ในมาตรา 44 ด้วยการเสนอที่อยู่อาศัยใหม่ให้แก่กลุ่มชุมชนเหล่านี้ ด้วยหวังพัฒนาแนวคลองให้มีความกว้างขวาง และมีระบบนิเวศที่ดีขึ้น โดยจะมีการประสานไปยังสำนักงานการคะแห่งชาติ เพื่อจัดสรรพื้นที่ของบ้านเอื้ออาทร นาเกลือ ให้ชุมชนเหล่านี้ย้ายไปที่พักอาศัย

ปัจจุบัน สำนักพัฒนาสังคมเมืองพัทยา ได้ดำเนินการติดต่อจับจองไว้แล้ว จำนวน 50 ห้อง ซึ่งล่าสุด ก็มีผู้มาติดต่อขอจับจองไปแล้ว จำนวน 26 ราย แต่คงต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสิ่งที่จะเร่งรัดดำเนินการคือ การออกคำสั่งประกาศ และแจ้งให้มีการรื้อถอนก่อนในส่วนของห้องเช่า จำนวน 20 ราย ที่มีการนำที่สาธารณประโยชน์ไปใช้ในการหารายได้ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้กรณีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาในระดับจังหวัดชลบุรี ที่จะมีผลสรุปในเร็ววันนี้

ขณะที่ นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะกรรมการวัดช่องลม กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่า วัดได้ทำการก่อสร้างกำแพงที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งในการปิดกั้นทางระบายน้ำจากคลองลงสู่ทะเลนั้น กรณีนี้ได้ชี้แจงว่าเมื่อปี พ.ศ.2549 ทางวัดช่องลม มีการรังวัดเพื่อขอออกโฉนดที่ดิน และมีบางส่วนในที่ดินของวัดที่มีแนวแปลงติดทะเล อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในภาพรวม วัดก็จะให้ความร่วมมือในการที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกเพื่อเปิดทางน้ำจากคลองลงสู่ทะเลต่อไป

ส่วนตัวแทนจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา ชี้แจงว่า เพื่อการบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนในกรณีปลูกสร้างอาคาร หรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ ก็ให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างที่เหล่านี้สามารถยื่นเอกสาร หรือหลักฐานแสดงการครอบครอง หรือการได้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดนั้นได้

ทั้งนี้ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่า เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่าง ไร โดยมีกำหนดระยะเวลาให้ยื่นเอกสาร และแจ้งอย่างเป็นทางการได้ภายในวันที่ 1 กันยายน 2560 นี้ เพื่อให้ผู้ที่ดำเนินการอย่างถูกต้องในกำหนดระยะเวลาที่กำหนดจะได้รับยกเว้นโทษทางกฎหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น