xs
xsm
sm
md
lg

เมืองพัทยา เตรียมทวงคืนที่สาธารณะ 3 แนวคลอง แก้ปัญหารุกล้ำ-น้ำท่วมขัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุก
ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา เดินหน้าออกนโยบายเข้มทวงคืนพื้นที่สาธารณะ 3 แนวคลอง อย่างจริงจัง เพื่อหวังแก้ปัญหารุกล้ำ และน้ำท่วมขังในพื้นที่ท่องเที่ยว และชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ตํ.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา เตรียมประกาศนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนในการทวงคืนพื้นที่สาธารณะตามแนวเขตคูคลองที่พบว่ามีการปลูกสร้างรุกล้ำกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งระบุว่าปัญหาดังกล่าวเป็นต้นตอสำคัญในการทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในพื้นที่พัทยาใต้ และตำบลนาเกลือ

โครงการดังกล่าวเป็นการสานต่อแนวทางการปฏิบัติของผู้บริหารยุคที่ผ่านมา ด้วยการเดินหน้าตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวเขตคลองสาธารณะ ในแหล่งน้ำสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ คลองพัทยาใต้ คลองปึกพลับ และคลองนาเกลือ (นกยาง) ที่พบว่า มีประชาชน และผู้ประกอบการทำการปลูกสร้างอาคาร รวมถึงที่พักอาศัยรุกล้ำแนวคลองอยู่เป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาในการระบายน้ำ อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่สร้างปัญหาด้านมลพิษจากขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และน้ำเน่าเสียอีกด้วย

ทั้งนี้ เมืองพัทยาได้มีการออกคำสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการรังวัดตรวจสอบแนวเขตคลองสาธารณประโยชน์ที่ชัดเจน ก่อนออกคำสั่งติดประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมาย

สำหรับคลองพัทยาใต้ นั้น พบว่ามีพื้นที่ความยาวประมาณ 800 เมตร ซึ่งที่ผ่านมา เมืองพัทยาสามารถลงพื้นที่ปฏิบัติงานในการรื้อถอนสิ่งกีดขวางตามแนวเขตคลองพัทยาใต้ ไปได้แล้วกว่า 90-95% ส่วนพื้นที่คลองปึกพลับ มีความยาวตลอดแนวคลองประมาณ 420 เมตร โดยจากการลงพื้นที่สำรวจ ตรวจสอบ และรังวัดที่ดินรวมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาอำเภอบางละมุง พบว่า มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินสาธารณประโยชน์บริเวณคลองปึกพลับจำนวนมาก

จากการตรวจสอบพบว่า มีการปลูกสร้างอาคาร ค.ส.ล.ประเภทห้องเช่า 1-3 ชั้น และประเภทบ้านพักอาศัย จำนวน 8 ราย 11 อาคาร ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฐานเข้ายึดครอบครองที่ดินของรัฐ ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497

ขณะนี้ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้ที่ครอบครองได้รับทราบ พร้อมติดประกาศคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคาร โดยอาศัย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังตรวจพบอาคารและสิ่งปลูกสร้างในลักษณะชุมชนที่รุกล้ำแนวคลอง อีกประมาณ 50 ราย ซึ่งได้ดำเนินการออกคำสั่งไปแล้วเช่นกัน

ส่วนพื้นที่บริเวณคลองนาเกลือ บริเวณชุมชนหลังวัดช่องลม พบว่า มีความยาวตลอดแนวคลองประมาณ 1 กิโลเมตร ตรวจพบอาคารที่ก่อสร้างรุกล้ำแนวคลองสาธารณะ จำนวน 117 ราย ซึ่งได้ดำเนินการออกคำสั่งให้รื้อถอนตามกฎหมายไปแล้ว จำนวน 91 ราย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ขออุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว จำนวน 64 ราย

โดยความเห็นจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ระบุว่า ชุมชนดังกล่าวเป็นอาคารถาวรจำนวนหนึ่ง ที่มีเลขทะเบียนบ้านที่ทางราชการออกให้ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคในชุมชนซึ่งเป็นงบประมาณของเมืองพัทยา โดยหากมีการรื้อถอนจะทำให้กระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จึงขอทราบแนวทางแก้ไขปัญหาหลังมีการรื้อถอนอาคารว่ามีมาตรการบรรเทาทุกข์รองรับไว้แล้วหรือไม่ และมีแนวทางการเยียวยาให้แก่ประชาชนผู้ถูกรื้อถอนหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาหาแนวทางเพื่อเยียวยาต่อไป

นอกจากนี้ เมืองพัทยาได้เตรียมพร้อมบูรณาการครั้งใหญ่ ด้วยการปรับปรุงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังให้เป็นรูปธรรม โดยมีแนวทางแก้ไขเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน 6 เดือน ระยะสั้น 1 ปี และระยะยาว 3 ปี ซึ่งได้นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุม เพื่อสรุปหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ที่สำคัญเตรียมขออนุมัติงบประมาณโครงการรวบรวมน้ำเสียตามแนวชายฝั่งนาจอมเทียน เข้าสู่ระบบวัดบุณย์กัญจนาราม พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างเมืองพัทยา กับกรมควบคุมมลพิษ และองค์การจัดการน้ำเสีย ชลบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาวต่อไป
สภาพบ้านเรือนที่บุกรุก
มีคำสั่งให้ทำการรื้อถอนในบางพื้นที่แล้ว
ลำคลองต่างๆในพื้นที่พัทยาที่ถูกบุกรุก
กำลังโหลดความคิดเห็น