xs
xsm
sm
md
lg

แฉยิบพร้อมคลิป ผอ.ร.ร.ดังลำปาง สั่ง สนง.จ่ายรายวัน ทั้งผ่อนรถ กินลาบ รองเท้าเมีย(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลำปาง - อดีตเลขาส่วนตัว ผอ.โรงเรียนลำปาง คนดัง แฉละเอียดยิบพร้อมคลิป สั่งจ่ายส่วนตัวตั้งแต่ตื่นยันหลับ ทั้งสร้างบ้าน ผ่อนรถ 6 คัน ยันค่ากินลาบ รองเท้าแตะภรรยา ยังต้องใช้เงินจาก สนง.ผอ. ยกเว้น กกน.ที่ไม่ได้สั่งให้ซื้อ เผย ผอ.คนดังใช้เงินมือเติบมากขึ้นเรื่อยๆ จนชักหน้าไม่ถึงหลัง หนี้สินรุงรังแก้ไขไม่ได้

นางสุรณี กัลยารัตนกุล หรือครูต้อย อายุ 65 ปี ครูเกษียณ และอดีตเลขาส่วนตัวของ ผอ.โรงเรียนดังในตัวเมืองลำปาง ที่ทนไม่ไหว หลังจากต้องขายทรัพย์สินส่วนตัวไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท รวมทั้งยังต้องรับหนี้แทน ผอ.คนดังกล่าวอีกนับสิบล้าน ยังคงเดินหน้าแฉต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบเส้นทางเงินของ ผอ. ซึ่งห้วง 4 ปีที่ผ่านมา (57-60) ใช้เงินจาก สนง.ผอ.โรงเรียนไปมากกว่า 40 ล้านบาท

โดยได้เปิดเอกสารหลักฐานบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวันที่ทำให้แก่ ผอ.คนดัง ซึ่งใช้เงินมือเติบขึ้นเรื่อยๆ จนชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้หนี้ยืมสินจำนวนมาก แม้แต่ตนก็ต้องควักเนื้อช่วยกว่า 3 ล้านบาท โดยการนำทรัพย์สินไปจำหน่าย เพราะ ผอ.คนดังขู่ว่าจะยุบสำนักงานฯ ซึ่งก็จะทำให้เด็กที่ทำงานด้วยรวม 4 คน ไม่มีงานทำ และหนี้ที่มีอยู่ตนต้องรับเอง แต่หากยังทำอยู่ก็นำเงินที่เข้ามาทยอยชำระได้ จึงต้องก้มหน้าทำตาม

แต่หลังเจ้าหนี้รุมทวงมากขึ้นจนเครียด เมื่อนำเรื่องแจ้ง ผอ. กลับไม่สนใจ แถมยังด่ากลับ หนักเข้าก็ไม่ให้เข้าพบ และไม่มาที่โรงเรียน ตนก็รับหน้าที่แทนทั้งหมด จนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจลาออก และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลูกสาวฟัง เพราะลูกสาวเคยถามหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เล่า เพราะคิดว่า ผอ.น่าจะแก้ปัญหาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

เมื่อลูกสาวรู้เรื่องก็พยายามรวบรวมข้อมูลที่มีทั้งหมดร้องขอความเป็นธรรมไปยังหลายหน่วยงานที่จะทำได้ แต่เรื่องก็เงียบจึงนำร้องสื่อมวลชน

ครูต้อย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำนักงานผู้อำนวยการฯ มีหน้าที่รับเงินจากส่วนต่างๆ แยกจากการเงินของโรงเรียน ซึ่งคิดว่าเป็นข้อตกลงของผู้บริหารที่ทุกคนในโรงเรียนทราบ และยินยอมให้ ผอ.ใช้เงินก้อนนี้จากรายการต่างๆ จึงไม่มีใครสอบถาม หรือทักท้วงใดๆ ส่วนผู้ปกครองนักเรียนไม่ทราบเรื่องเงินที่จ่ายให้แก่บุตรหลานที่มาเรียน เพราะไม่รับทราบว่าเงินที่จ่าย ไปเข้า สนง.ผอ.

โดยรายรับที่เข้ามา สนง.ผอ.แยกเป็นรายการได้ดังนี้ รายรับ ซึ่งรับเป็นรายปี คือ ค่าเทอมเด็กนักเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล หรือเนอสเซอรี่ มีทั้งหมด 3 ห้อง คือ ห้อง EP 1 ห้อง ปีละ 41,250 บาท/คน ห้องเรียนธรรมดา 2 ห้อง ปีละ 23,250 บาท/คน รายรับที่ได้เป็นรายวัน คือ รายได้จากค่าเช่าพื้นที่จำหน่ายอาหารในโรงอาหาร โดยทางการเงินของโรงเรียนต้องแบ่งเข้า สนง.ผอ.50%

รายรับที่ได้เป็นรายเดือน คือ รายได้จากการสอนพิเศษตามโครงการฝากลูกไว้กับครู (ช่วงหลังเลิกเรียน) โดยครูผู้สอนต้องจ่ายรายได้จากการสอนให้ สนง.ผอ.ห้องละ 10 คน คนละ 500 บาท หรือห้องละ 5,000 บาท/เดือน ซึ่งมีห้องเรียนทั้งสิ้น 60 ห้อง รวม 300,000 บาท/เดือน

ค่าสอนพิเศษช่วงซัมเมอร์ คือ เดือน เม.ย. มีรายได้ 25,000 บาท และเดือน ต.ค.มีรายได้ 20,000 บาท โดยชั้นเตรียมอนุบาลทาง สนง.ผอ.จะเก็บล่วงหน้าพร้อมค่าเทอมรายปี ส่วนเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 และ ป.1 จะจ่ายเมื่อถึงเวลาเรียน รายได้เงินทอนจากเอกชนที่เข้ามาเหมาทำอาหารกลางวันเด็กนักเรียน สัปดาห์ละประมาณ 41,000 บาท รายได้จากค่าบริการลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำคนละ 20 บาท/ครั้ง (ทุกคน)

ส่วนรายจ่ายของ ผอ.จะมีแทบทุกวัน ซึ่งแจกแจงรายละเอียดดังนี้
1.ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของ ผอ. รวมถึงบุคคลในครอบครัว และคนใกล้ชิดตามที่ ผอ.สั่ง
2.ค่าผ่อนชำระค่ารถยนต์ส่วนตัว ซึ่งพบว่ามีถึง 6 คัน คือ อีซูซุ มิวเซเว่น โตโยต้า แคมรี่ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โตโยต้า วีออส โตโยต้า ยาริส และอีซูซุ ดีแมคซ์
3.ชำระหนี้สิน และภาระดอกเบี้ยของ ผอ. และคนในครอบครัว
4.ชำระค่าสาธารณูปโภคของบ้านพักอาศัย 2 หลัง (หลังเก่าขายไปแล้ว)
5.ค่าซื้อของใช้รายวัน
6.โอนเงินให้แก่ผู้ใกล้ชิดตามที่ ผอ.สั่ง
7.จ่ายค่าแรงงานคนงานก่อสร้างสำหรับการสร้างบ้านพัก 2 แห่ง
8.จ่ายค่าแรงงานอื่นๆ รวมทั้งค่าวัสดุสำหรับงานก่อสร้างบ้านพักส่วนตัว
9.จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัวทุกวัน ทุกสัปดาห์
10.เงินสดติดตัวสำหรับ ผอ. ตามที่ขอ
11.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศของ ผอ. และคนในครอบครัว

ครูต้อย เปิดเผยอีกว่า ค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะต้องจ่ายออกจาก สนง.ผอ.ทั้งหมด สรุปคือ ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงหลับต้องใช้เงินจาก สนง.ผอ.ทุกบาท ทุกสตางค์ แม้แต่ค่าแชมพู ยาปลูกผม ค่าใส่ซองงานศพ งานบวช งานแต่ง ค่าจ่ายเงินพิเศษให้แก่คนบางกลุ่มบางคน แม้แต่รองเท้าแตะของภรรยายังต้องเอาเงินจากที่นี่ไปซื้อ ค่ากินลาบ อาหารกลางวัน ค่าจิปาถะ คงจะมีเพียง กางเกงชั้นในเท่านั้นที่ไม่ได้ใช้เงินจาก สนง.ผอ.ซื้อให้

ลูกสาวครูต้อย (ขอสงวนนาม) กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบเรื่องจากแม่ตนร้อนใจมาก และเห็นคุณแม่เปลี่ยนไป ซึม เครียด และทุกข์ใจมาก ตนเองจึงตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อช่วยแม่ ไม่ให้รับผิดหรือรับหนี้แทน ผอ.คนนี้อย่างเด็ดขาด ยอมรับว่ายาก และแทบจะไม่เห็นหนทาง เพราะมีแต่คนบอกว่า ผอ.เส้นใหญ่ ซึ่งดูได้จากหลายครั้งที่มีเรื่องร้องเรียนสุดท้าย ผอ.ก็จะไม่มีความผิด

“ก่อนนี้ สพป.เขต 1 เรียกให้นำเอกสารหลักฐานเข้าไปให้ ตนจึงนำไปให้เพียงบางส่วน และสอบปากคำคุณแม่นานถึง 5 ชั่วโมง จากนั้นก็ไม่เคยเรียกคุณแม่ หรือเจ้าทุกข์รายอื่นๆ ไปให้ปากคำอีกเลย เหมือนทุกอย่างจะเงียบไปหมด ตนจึงร้อนใจเพราะ ผอ.จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่เดือนแล้ว ซึ่งจะเดินหน้าต่อสู้ช่วยคุณแม่ให้ถึงที่สุด และจะไม่ถอย”






กำลังโหลดความคิดเห็น