ลำปาง - กรมทางหลวงเตรียมแผนขยายถนนวงแหวนบริเวณจุดตัดทางหลวงเลข 131 ลำปาง ระบุหากหลักกิโลเมตรยักษ์ขวางการขยายผิวจราจรก็จำเป็นต้องทุบทิ้ง ด้านคนที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างหลักกิโลเมตรยักษ์แต่แรกเตรียมฟ้องอดีตผู้ว่าฯ ฐานละลายงบเกือบ 3 ล้าน
จากกรณีที่แขวงการทางที่ 1 ลำปาง มีโครงการขยายผิวจราจรเป็นถนนวงแหวนและทางยกระดับ บริเวณจุดตัดทางหลวงเลข 131 ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ หลัก กม.ที่ 597 ต. ชมพู อ.เมืองลำปาง หรือตรงจุดหลักกิโลเมตรยักษ์ หรือแยกอินโดจีน ซึ่งมีสัญลักษณ์หลักกิโลเมตรยักษ์ตั้งตระหง่าน สูง 14 เมตร กว้าง 7 เมตร โดยรอบจะบอกระยะทาง ไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยมีลำปางเป็นจุดศูนย์กลาง ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กของจังหวัดลำปาง แต่เมื่อมีการขยายถนนก็จำเป็นต้องทุบหลักกิโลเมตรยักษ์จุดนี้ทิ้งเนื่องจากกระทบต่อพื้นที่ขยายถนนนั้น
หลังจากเรื่องนี้ได้เปิดเผยออกสู่สาธารณชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ชาวลำปางต่างออกมาแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกันเป็นจำนวนมาก
นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวว่า พื้นผิวจราจรบริเวณสี่แยกกิโลยักษ์ไม่เพียงพอต่อปริมาณรถ จำเป็นต้องขยายเลนจราจรลำปาง-กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น ตัดทางเลี้ยวใหม่ สร้างสะพานข้ามสี่แยกด้านเชียงใหม่-แพร่ ทำโค้งวงกลมย้อนกลับเข้ากรุงเทพฯ มีสองการเปลี่ยนแปลงควบคู่การพัฒนาที่จะเกิดขึ้น
โดยอาจจะเสนอให้กรมทางหลวงรับไปแล้วให้เอกชนเช่าพื้นที่ทำธุรกิจเป็นจุดพักรถจะได้หรือไม่ และกิโลเมตรยักษ์จะทำอย่างไร คงเดิม ทุบ หรือหาที่สร้างใหม่ เป็นทางออก สอบถามทางแขวงทางหลวงเจ้าของโครงการเขามีความเห็นว่าควรเอาออกเพราะจะบดบังสายตาคนใช้รถทางเลี้ยวกับทางตรงอาจเกิดอุบัติเหตุได้และผิดหลักวิศวจราจร แต่เกรงจะกระทบความรู้สึกของชาวลำปางที่มีกิโลเมตรยักษ์แห่งแรกๆ ของประเทศไทย
แต่การเข้าไปถ่ายรูป ณ บริเวณต้นเสาคงยากเพราะต้องข้ามเลนอันตราย ถ่ายจากรถก็จะมีสะพานเป็นแบ็กกราวนด์ คงจะต้องถามความเห็นจากหลายๆ ฝ่าย จะนำเข้าหารือในที่ประชุมหอการค้า และหรือคณะกรรมการพัฒนาจังหวัดหรือองค์กรต่างๆ รวมทั้งท้องถิ่นด้วย
สำหรับสะพานที่จะสร้างจะใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 580 ล้านบาท และจะเริ่มโครงการในช่วงต้นปี 2561 ซึ่งจะดำเนินการประมาณ 3 ปี ถือเป็นสะพานข้ามแยกสองแยกติดกันแห่งแรกของจังหวัดลำปาง และนอกจากนี้พื้นที่บริเวณวงแหวนมีที่ว่างประมาณ 10 ไร่ จะทำเป็นสวนหย่อมหรือสวนสาธารณะให้ชาวลำปางได้พักผ่อน และอาจจะมีการจัดเป็นจุดจำหน่ายสินค้า จุดพักรถ ซึ่งก็จะสะดวกไม่แออัด ส่วนหลักกิโลเมตรยักษ์ต้องดูอีกครั้งว่าจะกีดขวางหรือเป็นปัญหาหรือไม่ หากเป็นปัญหาก็ต้องทุบทิ้ง หากไม่เป็นปัญหาก็จะมีการปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงามมากขึ้น
อนึ่ง หลักกิโลเมตรยักษ์แห่งนี้ได้ก่อสร้างในสมัย นายดิเรก ก้อนกลีบ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เสร็จเมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 โดยใช้เงินจากกองทุนไฟฟ้าแม่เมาะลำปางรวม 2.8 ล้านบาท มีขนาดความสูง 14 เมตร กว้าง 7 เมตร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในขณะนั้นย้ำว่าการสร้างหลักกิโลเมตรยักษ์เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ว่าจังหวัดลำปางเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือที่จะเดินทางไปยังเพื่อนบ้านได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะท่องเที่ยวหรือด้านการค้าขาย
แม้ว่าก่อนก่อสร้างจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากแขวงการทางเจ้าของพื้นที่ก็ตาม แต่ทางจังหวัดลำปางก็ยังคงเดินหน้าก่อสร้างก่อนที่จะได้รับอนุญาต กระทั่งก่อสร้างเสร็จก็ยังไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากแขวงการทางเห็นว่าจุดดังกล่าวติดกับแยกไฟแดงซึ่งอาจจะกระทบในเรื่องการจราจร และมีแนวโน้มจะโดนทุบทิ้งก็ตาม
ต่อมามวลชนในจังหวัดลำปางหลายกลุ่มก็ได้ออกมาคัดค้านในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าการนำเงินจำนวนเกือบสามล้านบาทมาใช้ก่อสร้างเป็นการสิ้นเปลืองและไม่คุ้มค่า จนมีการร้องไปยัง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบโครงการดังกล่าวและโครงการอื่นๆ ที่ใช้งบพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตามมาอีก จนสุดท้ายโครงการก่อสร้างหลักกิโลเมตรยักษ์จบ แต่โครงการอื่นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางพร้อมด้วยข้าราชการรวมอีก 15 คน ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา ส่วนหลักกิโลเมตรยักษ์ก็กำลังจะถูกทุบทิ้งเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากมีการทุบทิ้งจริงประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างตั้งแต่แรกเพราะเสียดายงบประมาณและการก่อสร้างก็ไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างแต่ก็ยังดันทุรังสร้างจนเสร็จทั้งๆ ที่รู้ว่าจะโดนทุบทิ้ง อาจจะมีการรวมตัวฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องตามมาอีก
