ลำปาง - ตามรอย “หลักกิโลยักษ์-แยกอินโดจีน ลำปาง” พบผิดเพี้ยน บิดเบี้ยวมาตั้งแต่ต้น ทั้งใช้งบกองทุนโรงไฟฟ้าแม่เมาะเกือบ 3 ล้านจนถูกร้อง ป.ป.ช.-ไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง จนสุดท้ายจ่อโดนทุบ-ย้าย ขยายผิวจราจร/สร้างทางยกระดับ
หลังมีการนำข้อมูลที่นายเอกนรินทร์ จินทะวงค์ ผอ.แขวงทางหลวงที่ 1 ระบุว่า ในปี 2561 กรมทางหลวงมีโครงการขยายผิวจราจรเป็นถนนวงแหวน และทางยกระดับ บริเวณจุดตัดทางหลวงเลข 131 ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ หลัก กม.ที่ 597 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง หรือแยกหลักกิโลยักษ์ หรือแยกอินโดจีน
ซึ่งสัญลักษณ์หลักกิโลเมตรยักษ์ดังกล่าวตั้งตระหง่าน สูง 14 เมตร กว้าง 7 เมตร เขียนบอกระยะทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยถือเอาลำปางเป็นจุดศูนย์กลาง ถือเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดลำปางที่ใครผ่านไปมาก็จะแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่เมื่อมีการขยายถนนก็จำเป็นต้องทุบหลักกิโลเมตรยักษ์จุดนี้ทิ้ง เนื่องจากกระทบต่อพื้นที่ขยายถนน
แต่หลังจากเรื่องนี้ได้เปิดเผยออกสู่สาธารณชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ชาวลำปางต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ด้านนายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า พื้นผิวจราจรบริเวณสี่แยกกิโลยักษ์ไม่เพียงพอต่อปริมาณรถ จำเป็นต้องขยายเลนจราจรสายลำปาง-กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น ตัดทางเลี้ยวใหม่ สร้างสะพานข้ามสี่แยกด้านเชียงใหม่-แพร่ ทำโค้งวงกลมย้อนกลับเข้ากรุงเทพฯ
ซึ่งมีสองการเปลี่ยนแปลงควบคู่การพัฒนาที่จะเกิดขึ้น โดยอาจจะเสนอให้กรมทางหลวงรับไปแล้วให้เอกชนเช่าพื้นที่ทำธุรกิจเป็นจุดพักรถจะได้หรือไม่
ส่วนหลักกิโลยักษ์จะทำอย่างไร คงเดิม-ทุบ หรือหาที่สร้างใหม่ เมื่อสอบถามทางแขวงทางหลวง เจ้าของโครงการเขามีความเห็นว่าควรเอาออก เพราะจะบดบังสายตาคนใช้รถทางเลี้ยวกับทางตรงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และผิดหลักวิศวจราจร แต่เกรงจะกระทบความรู้สึกของชาวลำปางที่มีกิโลยักษ์แห่งแรกๆ ของประเทศไทย
“แต่การจะเข้าไปถ่ายรูป ณ บริเวณต้นเสาหลังขยายพื้นผิวถนนแล้วคงยาก เพราะต้องข้ามถนนหลายเลนอันตราย ถ่ายจากรถก็จะมีสะพานเป็นแบ็กกราวนด์ คงจะต้องถามความเห็นจากหลายๆ ฝ่าย โดยจะนำเข้าหารือในที่ประชุมหอการค้า และหรือ คณะกรรมการพัฒนาจังหวัดหรือองค์กรต่างๆ รวมทั้งท้องถิ่นด้วย”
สำหรับสะพานที่จะสร้างจะใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 580 ล้านบาท และจะเริ่มโครงการในช่วงต้นปี 2561 ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3 ปี ถือเป็นสะพานข้ามทางแยกสองแยกติดกันแห่งแรกของจังหวัดลำปาง นอกจากนนี้ พื้นที่บริเวณวงแหวนมีที่ว่างประมาณ 10 ไร่ จะทำเป็นสวนหย่อมหรือสวนสาธารณะให้ชาวลำปางได้พักผ่อน และอาจจะมีการจัดเป็นจุดจำหน่ายสินค้า จุดพักรถ
อย่างไรก็ตาม สำหรับหลักกิโลเมตรยักษ์ดังกล่าวใช้เงินจากกองทุนไฟฟ้าแม่เมาะลำปางที่ตั้งขึ้นมาเยียวยา-ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ รวม 2.8 ล้านบาท มีขนาดความสูง 14 เมตร กว้าง 7 เมตร ก่อสร้างในสมัยนายดิเรก ก้อนกลีบ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เสร็จเมื่อ 7 ก.ค. 51
แม้ว่าก่อนก่อสร้างจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากแขวงการทางเจ้าของพื้นที่ก็ตาม แต่ทางจังหวัดลำปางก็ยังคงเดินหน้าก่อสร้างก่อนที่จะได้รับอนุญาต กระทั่งก่อสร้างเสร็จก็ยังไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากแขวงการทางเห็นว่าจุดดังกล่าวติดกับแยกไฟแดงซึ่งอาจจะกระทบในเรื่องการจราจร และมีแนวโน้มจะโดนทุบทิ้งก็ตาม
ขณะที่กลุ่มมวลชนในจังหวัดลำปางหลายกลุ่มก็ได้ออกมาคัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าการนำเงินกองทุนโรงไฟฟ้าแม่เมาะเกือบ 3 ล้านบาทมาใช้ก่อสร้างเป็นการสิ้นเปลือง และไม่คุ้มค่า จนมีการร้องไปยัง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบโครงการดังกล่าวและโครงการอื่นๆ ที่ใช้งบพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตามมาอีก
ซึ่งเป็นผลทำให้อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยข้าราชการรวมอีก 15 คน ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไปเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีแหล่งข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากมีการทุบหลักกิโลยักษ์ทิ้งจริง ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างตั้งแต่แรกเพราะเสียดายงบประมาณ และการก่อสร้างก็ไม่ได้รับอนุญาตแต่ก็ยังดันทุรังสร้างจนเสร็จทั้งๆ ที่รู้ว่าอาจจะโดนทุบทิ้ง อาจจะมีการรวมตัวฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องตามมาอีกก็เป็นได้