ราชบุรี - ชุมชนคนเลี้ยงกุ้งเครฟิช จังหวัดราชบุรี ร้องหลังได้รับผลกระทบทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ เนื่องจากคนซื้อไปเลี้ยงต้องขึ้นทะเบียนด้วย ด้านประมงจังหวัดราชบุรี ยืนยันต้องขึ้นทะเบียน
จากที่มีพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 กำหนดให้ผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต้องไปขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานประมงท้องที่ โดยเฉพาะกุ้งเครฟิช หรือกุ้งก้ามแดง เป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่นำมาเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นสัตว์น้ำควบคุม ต้องขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานประมงท้องที่ ซึ่งไม่ว่าจะมีเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม หรือเลี้ยงไว้เพื่อธุรกิจ
ในเรื่องนี้ทำให้ผู้ที่เลี้ยงกุ้งก้ามแดงต่างก็ออกมาเรียกร้องความชัดเจนว่าการควบคุมนั้นต้องควบคุมอย่างไร และเมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายก็ทำให้ลูกค้าที่เคยสั่งซื้อกุ้งนั้นไม่กล้าที่จะนำกุ้งไปเลี้ยง เพราะกลัวว่าจะผิดกฎหมาย ทำให้ตอนนี้ผู้ที่เลี้ยงกุ้งก้ามแดงมากกว่า 300,000 ราย ทั่วประเทศต่างก็ได้รับผลกระทบเพราะกุ้งนั้นยังขายไม่ได้
นายฉกาจ ศรีโพธิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/7 หมู่ 4 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และเป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามแดง บอกว่า ในหมวดที่ 6 มาตรา 73 ระบุว่า กรมประมงต้องส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจเรื่องสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ขณะนี้กรมประมงนำเรื่องสิ่งแวดล้อมมาใช้เพียงข้อเดียว
กุ้งก้ามแดง ไม่เหมือนหอยเชอรี่ หรือตั๊กแตน ยังไม่ผลวิจัยว่ากุ้งก้ามแดงทำลายสิ่งแวดล้อม รอให้เกิดก่อนได้ไหมแล้วค่อยมาว่ากัน ซึ่งเราสามารถจัดการได้ และถ้าจะมาจับตั้งแต่ยังไม่ได้ทำผิดอะไรเลย และก็ไปตั้งข้อหาให้แล้ว จึงอยากจะขอความชัดเจนในเรื่องนี้ด้วย
ด้าน นายไพรรัตน์ ดวงดา อายุ 39 ปี ประธานกลุ่มประมูลกุ้งเครฟิชทุกสายพันธุ์ บอกว่า ทุกวันนี้ทางกลุ่มมีสมาชิกที่เป็นผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดงขายมากกว่า 300,000 ราย มีรายได้จากการขายกุ้ง ถ้ากฎหมายออกมาว่าคนเลี้ยงกุ้งถ้าไม่ไปขึ้นทะเบียนตลาดก็แคบลง เพราะลูกค้าที่มาหาซื้อไปเลี้ยงเพื่อความสวยงามแค่ตัวสองตัวนั้นคงไม่ต้องขึ้นทะเบียน แต่ถ้าจะเลี้ยงเพื่อธุรกิจนั้นต้องไปขึ้นทะเบียน ซึ่งคนที่จะเลี้ยงก็มองว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงไม่หาซื้อไปเลี้ยงแล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากเพาะพันธุ์กุ้งมาแล้วขายไม่ได้ ทุกวันนี้คนเลี้ยงกุ้งก้ามแดงมีหลายวัย ทั้งคนทำงาน และเยาวชน ซึ่งการเลี้ยงกุ้งนั้นสามารถสร้างรายได้ให้อย่างดี โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นพฤติกรรมก็จะเปลี่ยนไป อยู่กับบ้านเลี้ยงกุ้งไม่เที่ยวเตร่ และมีรายได้ด้วย จึงอยากขอความชัดเจนในเรื่องของการขึ้นทะเบียนด้วยว่า ใครสมควรที่จะต้องไปขึ้นทะเบียนบ้าง
ด้านประมงจังหวัดราชบุรี บอกว่า ทุกคนที่เลี้ยงกุ้งนั้นไม่ว่าจะเลี้ยงเพื่อความสวยงาม หรือเลี้ยงเพื่อทำธุรกิจจะต้องมาขึ้นทะเบียนที่สำนักงานประมงในท้องที่ เพื่อให้ทางประมงได้มีข้อมูลว่ามีผู้เลี้ยงกี่ราย และจำนวนกุ้งกี่ตัว เพราะกุ้งก้ามแดงเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่น มีนิสัยก้าวร้าว ถ้าหลุดไปในแหล่งน้ำธรรมชาติจะทำลายสิ่งแวดล้อม จึงต้องทำการควบคุมไว้ก่อน ซึ่งการมาแจ้งก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ถ้าไม่มาแจ้งแล้วมีการตรวจพบก็จะมีระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ไปถึง 100,000 บาท หรือปรับวันละ 10,000 บาท ไปจนถึงระยะเวลาที่ฝ่าฝืน