โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างพระราชกำหนดการประมง ฉบับใหม่ กำหนดองค์ประกอบเรือเพิ่ม แยกพาณิชย์กับพื้นบ้านชัดเจน พร้อมสั่งปิดกิจการถาวรพวกใช้ต่างด้าวผิดกฎหมายหากถูกจับ 3 ครั้งในรอบ 3 ปี ชี้ ต้องรีบออกให้ทันสหภาพยุโรปมาตรวจสอบ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ ครม. ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนดการประมง สืบเนื่องจาก พ.ร.ก. การประมง ปี 2558 ที่มีการบังคับใช้ ยังมีบางเรื่องที่ขัดข้องอยู่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างครบวงจร จึงจำเป็นต้องออก พ.ร.ก. ฉบับใหม่ โดยหลักการ 1. เรื่องการกำหนดองค์ประกอบเรือประมงเพิ่มเติม คือ ถ้าเป็นเรือประมงพาณิชย์ให้หมายรวมถึงเรือที่มีเครื่องมือศักยภาพสูง และเรือประมงที่ทำการแปรรูปสัตว์น้ำ ไม่ว่าจะทำประมงด้วยหรือไม่ก็ตาม เพียงแค่แปรรูปก็คือว่าเป็นเรือประมงพาณิชย์แล้วไม่จำเป็นต้องไปจับสัตว์น้ำ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้แบ่งแยกชัดเจนระหว่างการประมงพื้นบ้าน กับประมงพาณิชย์ เพราะหลักการสำคัญของ IUU เป็นการห้ามเรือประมงพาณิชย์เขามาทำประมงในเขตประมงพื้นบ้าน แต่เรือประมงพื้นบ้านสามารถข้ามไปทำประมงในเขตเรือประมงพาณิชย์ได้ เมื่อได้รับอนุญาต รวมทั้งมีข้อกำหนดในเรื่องการจ้างแรงานต่างด้าวด้วย เช่น หากมีการเรือประมง หรือกิจการประมง การแปรรูปสัตว์น้ำไหนที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ก็จะมีการสั่งปิดกิจการ แล้วถ้าตรวจเจอซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ในรอบ 3 ปี จะมาคำสั่งปิดกิจการถาวร
“สาเหตุที่ต้องออกเป็นพระราชกำหนด เพราะในช่วง 2 - 3 เดือนข้างหน้านี้ สหภาพยุโรปจะเดินทางมาตรวจสอบเรื่องเกี่ยวกับแนวทางหรือความก้าวหน้าในการแก้ไขการทำประมงที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย เนื่องการเกี่ยวข้องกับการลดหรือเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือของการทำประมงของไทย” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว