กาญจนบุรี - ปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า ชุด ศปก.พป. พญาเสือ พยัคฆ์ไพร ฉลามขาว พื้นที่ อช.เขื่อนศรีนครินทร์ วันที่2 บุกตรวจเรือสำราญหรู 2 ลำ ค่ากว่า 100 ล้านบาท พบรุกที่อุทยานฯ พร้อมยึดไม้อีกเพียบ
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายยรรยง เลขาวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน.ชุดพญาเสือ) นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง
พร้อมด้วย พ.ต.ท.รัชพล กิตติคุณชนก สว.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ชุด ตร.ปทส.ภ.จว. กาญจนบุรี ร.ต.ท.สุวัฒน์ ห้วยหงษ์ทอง รอง สว.กก.5 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร (กรมป่าไม้) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว (กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังกว่า 100 นาย เข้าปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า และผืนป่าอนุรักษ์ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ พื้นที่หมู่ 3 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เป็นวันที่ 2
โดยเข้าตรวจสอบเรือสำราญชื่อ ศิขรินทร์ และเรือวรินทิรา ซึ่งจอดอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยพบ นายธนาธิป กาญจนศักดิ์ ให้การว่า เรือทั้ง 2 ลำ มีใบอนุญาตถูกต้อง พร้อมเผยว่า ได้นำมาจอดซ่อมแซม และตกแต่งห้องพักในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งได้แสดงเอกสารใบอนุญาตให้ใช้เรือจากกรมการขนส่งและพาณิชยนาวี จำนวน 2 ฉบับ เจ้าของคือ น.ส.วิไลวรรณ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ประเภทเรือบรรทุกโดยสารและภัตตาคาร มีใบอนุญาตใช้เรือ ใบแจ้งผลการอนุญาตแบบแปลนออกโดยกรมเจ้าท่า ใช้งบในการก่อสร้างหมดไป 70-80 ล้านบาท จัดทำเป็นห้องพักได้ 50 ห้อง ไม่รวมห้องอาหาร ห้องบันเทิง และห้องบริการรวม
ลำที่ 2 คือ เรือวรินทิรา เจ้าของคือ นายชาญชัย ธเนศานนท์ ประเภทเรือบรรทุกโดยสารและภัตตาคาร ส่วนเรือลำนี้ลงทุนไป 30 กว่าล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ 90% พร้อมให้บริการ รวมทั้ง 2 ลำก็หมดไม่น้อยกว่า 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาท)
นายธนาธิป กล่าวอีกว่า หากตนรู้ว่าต้องขออนุญาตจากงานบริการต่างๆ อีก เช่น การขออนุญาต ตั้งโรงแรม การขออนุญาตเดินเรือ หรือต้องผ่านลักษณะเดียวกับกระบวนการสิ่งแวดล้อม หรือต้องขอความเห็นชอบจาก อบต. พื้นที่ และต้องขออนุญาตประกอบการการท่องเที่ยว และที่สำคัญ ตนไม่ทราบว่าถ้าเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ ต้องขออนุญาตจากกรมอุทยานฯ อีก ตนจะไม่ดำเนินการ หรือสร้างอย่างเด็ดขาด และตอนนี้ถ้าเรื่องกระบวนการยุติธรรมจบ ตนจะเลิกทำ และรื้อเพื่อขายชิ้นส่วนนี้ ไป และจะไม่ทำอีกต่อไปอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วพิจารณาเห็นว่า เรือทั้ง 2 ลำ ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ม.16, ม.17, ม.28 และการซ่อมแซม ตกแต่งเรือดังกล่าวมีการใช้เครื่องจักรในการแปรรูปไม้ซึ่งเป็นการตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
ดังนั้น คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้แปรรูปได้แก่ ไม้สัก 363 แผ่น ไม้ประดู่ 3 แผ่น ไม้กระยาเลย 1,434 แผ่น จำนวนรวมกว่า 28.75 ลบ.ม.และเครื่องจักรในการแปรรูปไม้ ประกอบด้วย เครื่องรีดไม้ 2 ตัว เครื่องเซาะร่อง 1 ตัว ไปเก็บรักษาไว้ที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
พร้อมทั้งเชิญตัว นายธนาธิป กาญจนศักดิ์ โดยรับเป็นเจ้าของ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ไม่มีการคัดค้านการประตัว โดยขอให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนต่อไป