เมืองพัทยาลุยล้างปัญหาบุกรุกที่สาธารณะเพียบ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ลุยล้างปัญหาบุกรุกที่สาธารณะ พบเป้าหมายรวมกว่า 20 จุด ทั้งโรงแรมดัง สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ เตรียมลงสำรวจ จ่อดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด ส่วนโรงแรมดุสิต อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

วันนี้ (23 ธ.ค.) นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานตรวจสอบและติดตามการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างรุกล้ำชายหาดเมืองพัทยา ครั้งที่ 1 หลังมีคำสั่งลงนามแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสำรวจ ติดตาม ตรวจสอบ แก้ไขปัญหา และทวงคืนที่สาธารณะจากการบุกรุกในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ทั้งแนวที่ดิน และชายฝั่งทะเล ด้วยพบว่าที่ผ่านมามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการรายงานของคณะทำงานดังกล่าว โดยการลงพื้นที่สำรวจในปัจจุบันนั้นพบว่าเบื้องต้นมีเป้าหมายที่มีการก่อสร้างบุกรุกที่สาธารณะ และเข้าข่ายกระทำความผิดทั่วเขตเมืองพัทยาจำนวนกว่า 20 ราย ทั้งในส่วนของที่ดินบนฝั่งและชายหาด ขณะที่ในส่วนของชายหาดนั้นมี 2 รายที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ โรงแรมโกลเด้น คลิฟ บนเขาพระตำหนัก ที่มีการก่อสร้างสระว่ายน้ำล้ำลงไปในทะเล และการก่อสร้างเพิงพักอาศัย บริเวณเชิงเขาหน้าโรงแรมโคซี่บีช ซึ่งที่ผ่านมา มีการปิดหมายคำสั่งให้รื้อถอน และดำเนินการไปจนหมดแล้ว

นอกจากนี้ ยังผู้ประกอบการอีก 3 ราย ที่เมืองพัทยาได้ทำการปิดหมายคำสั่งไปแล้วเพื่อให้ดำเนินการรื้อถอน เพียงอยู่ในขั้นตอนของการรอระยะเวลาตามกำหนดของกฎหมายเท่านั้น ได้แก่ พื้นที่บางส่วนของโรงแรมเซนทารา ที่มีแนวรุกล้ำชายหาดวงศ์อมาตย์ในระยะ 6 เมตร ร้านอาหารบริเวณเชิงเขา สทร.5 ข้างสำนักงานกู้ภัยทางทะเล ที่มีแนวรุกล้ำอยู่ประมาณ 30% ของตัวอาคาร และร้านอาหารบาลีฮาย ซันเซท บริเวณประภาคาร ปลายแหลมบาลีฮาย ซึ่งรายหลังสุดนี้เรื่องอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคำอุทธรณ์ระดับจังหวัด เนื่องจากมีการคัดค้านว่ามีเอกสารสิทธิ และสัญญาเช่าที่ถูกต้อง

ขณะที่ในส่วนที่เหลือนั้นยังมีหลายรายที่เข้าข่ายการบุกรุกที่สาธารณะชายหาด ซึ่งปัจจุบันกำลังรอการรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ชัดเจนจากสำนักงานที่ดิน ซึ่งมีทั้งในส่วนของโรงแรมระดับ 5 ดาว และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขตเมืองพัทยา เช่น โรงแรมดุสิตธานี พัทยา และปราสาทสัจธรรม พัทยา ซึ่งมีการร้องเรียนว่ามีแนวกำแพงโดยรอบรุกล้ำชายหาด ชุมชนย่านซอยนาเกลือ 10-12 ซึ่งมีอาคารรุกล้ำรวมกว่า 40 หลังคาเรือน บ้านพักส่วนบุคคล บริเวณชายหาดวงศ์อมาตย์ รวมไปถึงบ้านพักไม้กลางทะเล บริเวณอ่าวนาเกลือ หลังสวนสาธารณะลานโพธิ์ และโบสถ์กลางน้ำ ภายในวัดจิตตภาวัน วิทยาลัย ซึ่งทั้งหมดจะต้องทำการสำรวจ และตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงต้นปี 2560 นี้ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีการรุกล้ำที่สาธารณะจริง

ด้าน ร.ท.สันติบาล แสนดี ผู้บังคับหมวดรักษาความสงบ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีการร้องเรียนจากประชาชน และผู้ประกอบการว่าพื้นที่ชายหาด จำนวน 2 จุด ได้แก่ บริเวณหาดหน้าโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท บนเขาพระตำหนัก และหน้าโรงแรมชลจันทร์ หน้าชายหาดกระทิงลาย มีการปิดกั้นไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินผ่าน หรือสัญจรไปตามแนวชายหาดได้ ซึ่งจะต้องเป็นอีกกรณีที่ต้องสำรวจความเป็นมาด้วย เป็นที่ดิน หรือชายหาดสาธารณะหรือไม่ โดยอยากร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาทำการสำรวจอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีปัญหาที่ยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบ

ขณะที่ นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมานาน และเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งอาจมีการเล็ดลอดสายตาไปบ้าง จึงสร้างความเสียหายต่อส่วนรวม จึงมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเร่งด่วน โดยหากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่