xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรริมฝั่งโขงปลูกหอมแบ่งขายแทนยาสูบ บางรายโกยเงินแสน-พ่อค้าแย่งจอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม - เมียผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปลูกหอมแบ่งริมฝั่งโขงนครพนม โกยรายได้เดือนละแสน พ่อค้าแย่งจองจ่ายเงินมัดล่วงหน้า เผยก่อนหน้านี้เกษตรกรริมโขงปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ แต่โรงงานรับซื้อคัดเกรดได้ราคาต่ำจึงหันมาปลูกพืชผักระยะสั้นทนแล้งแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเกษตรกรจำนวนมากในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พากันแห่ปลูกต้นหอม หรือชาวอีสานเรียกว่า “หอมแบ่ง” ผักใช้น้ำน้อยทนแล้ง โดยเฉพาะที่ ต.แสนพัน ถือเป็นแหล่งปลูกใหญ่ ตามแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงไปจาก บ.แสนพัน หมู่ 5 ปลูกยาวสุดลูกหูลูกตา เรื่อยไปจนถึง บ.ศรีนคร ต.พระกลางทุ่ง ระยะทาง 3-4 กิโลเมตร ถึงขนาดมีพ่อค้าคนกลางมาจองคิวและนำเงินมัดจำล่วงหน้า โดยหอมแบ่งจะเริ่มปลูกในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกกว่า 50 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 100 ไร่ บางรายมีรายได้ตกเดือนละ 1 แสนบาท โกยเงินเข้ากระเป๋าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

นางแอ๋ม ต้นสวรรค์ วัย 36 ปี และนายสมชาย ต้นสวรรค์ อายุ 42 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ.แสนพัน หมู่ 5 สองสามีภรรยา เกษตรกรผู้ปลูกต้นหอมกล่าวว่า ตนและสามีมีที่ดินริมฝั่งโขงเนื้อที่ 6 ไร่ เดิมทีปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์แต่ราคาไม่ดีเพราะโรงงานรับซื้อคัดเกรดจึงหันมาปลูกพืชผักระยะสั้นทนแล้งแทนได้นาน 5-6 ปี เริ่มจากแบ่งพื้นที่ปลูกพริก มะเขือเทศ ต้นหอม ข้าวโพด สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในเนื้อที่ดังกล่าว และยังเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์ไว้ 13 ตัว พร้อมเลี้ยงโค-กระบือไว้ขายลูกอีกจำนวนหนึ่งด้วย เพื่อเสริมรายได้อีกทาง

นางแอ๋มเล่าต่อว่า ช่วงฤดูหนาวจึงลงมือปลูกต้นหอม โดยสั่งซื้อพันธุ์มาจาก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ในราคา 56,000 บาท จ้างรถไถไถคราด 3 รอบและปั่นให้ดินร่วนซุย พร้อมจ้างแรงงานชาวบ้านปลูก รวมทั้งค่าปุ๋ยลงทุนทั้งสิ้นใน 6 ไร่ เต็มพื้นที่เป็นเงินลงทุน 1 แสนบาท เริ่มลงมือปลูกเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนปลูกจะหว่านปุ๋ยเม็ดตราเรือใบ หรือตรารุ่งอรุณสูตร 13-13-21 หลังผักโตได้ 1 เดือนจึงหว่านใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ต่อท่อรดน้ำช่วงเช้าด้วยฟักบัวแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยใช้ฟางข้าวปกคลุมเพื่อให้หน้าดินมีความชุ่มชื้นตลอด เพราะใน 1 สัปดาห์ อบต.แสนพัน จะเปิดน้ำผันให้เกษตรกรใช้แค่วันเดียวเสียแค่ 20 บาทต่อครั้ง

หลังต้นหอมเริ่มโตมีอายุได้ 1 เดือนจะมีพ่อค้าคนกลางจากโคราชตระเวนขับรถกระบะมาดูแปลงปลูก หากใครปลูกมากก็จะนำเงินมามัดจำล่วงหน้าครึ่งหนึ่ง เพื่อจับจองเหมาซื้อเป็นไร่ ในราคาไร่ละ 70,000 บาท ต้นฤดูกาลพ่อค้าจองต้นหอมตน 2 ไร่ ตกเป็นเงิน 140,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 4 ไร่ ใกล้เก็บผลผลิตไร่เรี่ยกันจองซื้อไร่ละ 40,000 บาท ใน 6 ไร่รวมเป็นเงิน 300,000 บาท ใช้เวลาปลูกแค่ 2 เดือน ตนและสามีมีหน้าที่แค่รดน้ำและหว่านปุ๋ย ทำกำไรเข้ากระเป๋า 2 แสนบาท

“หากเป็นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายรราคาผักแพง พ่อค้าคนกลางจะให้ราคาสูงถึงไร่ละ 80,000 บาทเลยทีเดียว ผักชนิดนี้ใช้ในครัวเรือนแทบทุกวัน ผู้บริโภคนิยมนำไปใส่ต้มยำ ลาบ ก้อย ต้ม” ภรรยาผู้ช่วยผูใหญ่บ้านกล่าว

ด้านนายปรีดา พักประไพ วัย 51 ปี หนึ่งในพ่อค้าคนกลางกล่าวว่า มีอาชีพรับซื้อพืชผักมานาน 5 ปี เดิมทีเคยวิ่งรับซื้อผักทางภาคเหนือและภาคกลาง ส่งแหล่งรับซื้อค้าส่งแหล่งใหญ่ที่ตลาดสุรนครเมืองใหม่ จ.นครราชสีมา และตลาดสี่มุมเมือง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตลาดค้าส่งผักแหล่งใหญ่ในภาคอีสานและภาคกลาง โดยตนจะมีรถกระบะ 6 คัน วิ่งมารับซื้อต้นหอมถึงสวนในพื้นที่ ต.แสนพัน ซึ่งต้องจองและมัดจำเงินครึ่งหนึ่งช่วงที่ผลผลิตปลูกได้ 1 เดือน ปีนี้ตนเหมาซื้อมากถึง 20 ไร่ โดยจะว่าจ้างแรงงานในพื้นที่ ต.บ้านกลาง รอยต่อกับ ต.แสนพัน จำนวน 12 คน จ้างค่าแรงคนละ 200 บาทต่อ 3 ชั่วโมง มาถอนต้นหอมมัดละ 10 กิโลกรัมขึ้นรถกระบะบรรทุกได้ต่อคันจำนวน 4 ตัน

พ่อค้าคนกลางรายนี้บอกอีกว่า หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตขึ้นรถเสร็จก็จะวิ่งเข้า จ.นครราชสีมา เพื่อจ้างแรงงานล้างคราบดินออกและลอกต้นหอมตกกิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อให้มีความสดใหม่ ก่อนจะตีรถไปส่งตลาดสุรนครและตลาดสี่มุมเมือง เพื่อส่งขายต่อให้พ่อค้ารายใหญ่ แต่ละรายจะซื้อ 200-300 กิโลกรัม และหมดในเวลาอันรวดเร็ว พ่อค้าในตลาด 2 แห่งก็จะกระจายสินค้าสู่จังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงต่อไป โดยราคาต้นหอมที่ขายส่งปัจจุบันตกกิโลกรัมละ 35-40 บาท พ่อค้าแม่ค้าก็จะไปขายปลีกอีกทอดในราคากิโลกรัมละ 60 บาท ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาต้นหอมมีราคาแพงสูงถึงกิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งราคาขึ้นอยู่ตามฤดูกาลและกลไกทางตลาด หากเดือนไหนผักแพงตนก็จะมีกำไรตามเกษตรกรไปด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น