นครพนม - นรข.นครพนมซ้อนแผน ดักรวบได้แค่สมุนปลายแถวแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ยึดของกลางเต็มลำเรือขณะจะขนข้ามโขงไปฝั่งลาว
จากกรณีแก๊งพ่อค้าไม้พะยูงข้ามชาติเหิมเกริมตระเวนตัดไม้ในเขตชุมชนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายเพื่อนำส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน พล.ร.ต.วราห์ แทนขำ ผบ.นรข. จึงสั่งการให้ น.อ.ณัฐเกียรติ มนขุนทด ผบ.เขตนครพนม พื้นที่รับผิดชอบหมั่นตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะจังหวัดนครพนม เนื่องจากมีพ่อค้ารายใหญ่อยู่จำนวนหลายราย
กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา (29 พ.ย.) ชุดลาดตระเวน นรข.เขตนครพนม นำโดย พ.จ.อ.เริงฤทธิ์ ฤทธานันท์ หัวหน้าชุดประจำ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สามารถสกัดจับเรือกีบบรรทุกไม้พะยูงเต็มลำกลางแม่น้ำสงคราม คนร้ายพยายามหลบหนี แต่เกิดเรือแตกจึงยอมให้จับกุมแต่โดยดี
เบื้องต้นคนร้ายมี 2 คน ชื่อ ท้าวกิ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี และ ท้าวรัต (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เป็นน้าหลานกัน ชาวบ้านกะวะเหนือ เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว ถูกจับกุมขณะลอยคออยู่กลางแม่น้ำ จึงนำตัวทั้งคู่ขึ้นฝั่งริมท่าน้ำหน้าวัดโพธิ์ชัย หมู่ 7 ต.ไชยบุรี ซึ่งอยู่ห่างปากแม่น้ำโขงเพียง 200 เมตร
สอบสวนเบื้องต้นทั้งสองให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาวคนละ 1 พันบาทเพื่อให้ขับเรือกีบเพลาเดียวติดเครื่องยนต์ลัดเลาะข้ามจากฝั่งแม่น้ำโขงในเวลากลางคืนเข้าไปยังบ้านปากน้ำไชยบุรี บริเวณบรรจบกันระหว่างแม่น้ำโขงกับแม่น้ำสงคราม โดยอ้างว่านายทุนสั่งให้ขับเรือเข้าไปเรื่อยๆ จะมีคนฉายไฟให้สัญญาณตลอดเส้นทาง
กระทั่งมาจอดเรือริมท่าน้ำเพื่อรอรับไม้พะยูงจากพ่อค้าคนไทย แต่นอนรอถึง 3 วันจึงได้ขนไม้ลงเรือรวมทั้งสิ้น 14 ท่อน จากนั้นก็ขับเรือออกมายังลำน้ำสงคราม มาถึงที่ท่าหน้าวัดโพธิ์ชัย ก็มีเรือของหน่วยเรือ นรข.วิ่งไล่ตาม จึงรีบเร่งเครื่องพยายามหลบหนี แต่เกิดเรือแตกล่มลงกลางแม่น้ำ จึงยอมจำนนแต่โดยดี
ทางด้าน น.อ.ณัฐเกียรติ มนขุนทด ผบ.นรข.เขตนครพนม เปิดเผยว่า ทางการข่าวที่เคลื่อนไหวตามแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงรายงานถึงขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ เตรียมจะขนไม้ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะใช้เส้นทางน้ำเป็นการลำเลียงหวังตบตาเจ้าหน้าที่ซึ่งปกติแก๊งนี้จะใช้ทางรถยนต์ขนส่งลำเลียงสิ่งของ จึงสั่งการให้ น.ท.กริช กองศรี หน.สน.เรือบ้านแพง สนธิกำลังกับ มว.ปล.ที่ 3 ร้อย ร.กกล.สุรศักดิ์มนตรี
โดย ร.ท.ประวิทย์ อุ่นกระโทก ผบ.ร้อย.กกล. และ พ.ต.อ.ธานัท จิระธนากุล ผกก.สภ.ท่าอุเทน พ.ต.ต.ศักดิ์ชัย บุญกิโย ผบ.ร้อย.ตชด.237 พร้อม นายกิตติพันธ์ จันนนท์ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นพ.1(พนอม) วางกำลังดักซุ่มตามจุดที่คาดว่ากลุ่มขบวนการค้าไม้จะต้องใช้เป็นเส้นทางลำเลียง
กระทั่งกลางดึกสายรายงานว่ามีเรือกีบแล่นจากฝั่งลาวข้ามแม่น้ำโขงเลี้ยวเข้าสู่แม่น้ำสงคราม น่าจะเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัย จึงวางกำลังเฝ้าติดตามอยู่ห่างๆ เพื่อไม่ให้คนร้ายรู้ตัว โดยชายสองคนที่ต้องสงสัยนำเรือไปจอดอยู่ริมท่าน้ำบ้านท่าแต้ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน เพื่อรอรับไม้พะยูงที่พ่อค้าคนไทยขนลงมาใส่เรือ นอนรออยู่ 3 วันจึงได้ของจนครบตามจำนวน ถึงเวลากลางคืนก็ล่องเรือออกสู่แม่น้ำโขง
แต่เจ้าหน้าที่ซุ่มรอจนเรือแล่นมาถึงหน้าวัดโพธิ์ชัย ซึ่งอีกประมาณ 200 เมตรคนร้ายก็สามารถขับเรือข้ามแม่น้ำโขงสำเร็จ จึงส่งสัญญาณให้จอดแต่คนร้ายกลับเร่งเครื่องยนต์หนี แต่ไปไม่รอดเรือเกิดแตกจนจมลงก้นแม่น้ำถึงยอมให้จับกุม
รุ่งเช้าวันนี้ (30 พ.ย.) นักประดาน้ำจาก นรข.ก็ลงไปกู้ซากเรือพร้อมไม้พะยูงของกลางขึ้นจากแม่น้ำสงคราม มีจำนวนทั้งสิ้น 14 ท่อน ขนาดยาวตั้งแต่ 1-2.6 เมตร ราคาในไทยราว 1.7 ล้านบาท หากสามารถเล็ดลอดส่งขายไปยังประเทศปลายทางจะมีราคาสูงขึ้นอีก 2 เท่าตัว หลังงมของกลางจนหมดได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาชาวลาวส่ง สภ.ท่าอุเทนเพื่อสอบสวนหาตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังต่อไป