พระนครศรีอยุธยา - “เจนพบ วีรพร” หนุ่มที่ซิงเบนซ์พุ่งชนรถยนต์ฟอร์ดทำให้เพลิงไหม้รถ 2 นิสิตปริญญาโทเสียชีวิตคาซากรถ ปฏิเสธ 6 ข้อหา รับสารภาพเพียงข้อหาเดียว ขณะที่ญาติเหยื่อเรียกค่าชดเชยกว่า 100 ล้านบาทจะนำเงินส่วนใหญ่ไปตั้งมูลนิธิสืบสานเจตนารมณ์ของผู้เสียชีวิต
จากกรณี นายเจนภพ วีรพร ขับรถยนต์เบนซ์พุ่งชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด ทำให้เพลิงไหม้รถ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี ทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสียชีวิตคาซากรถ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.59 หลังเกิดเหตุเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำงานล่าช้า จนมีการเปลี่ยนทีมพนักงานสอบสวน ภายหลังมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อคดีทั้งหมด จนสามารถส่งสำนวนฟ้องต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี พร้อมทีมทนายความ และญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามคำสั่งของศาล เพื่อทำการตรวจพยานเอกสาร และกำหนดวันนัดสืบพยาน โดยในวันนี้ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สอบถามจำเลยด้วยจะยอมรับสารภาพหรือปฏิเสธในคำฟ้องของพนักงานสอบสวน ใน 7 ข้อหา คือ
1.ขับรถโดยประมาทอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
2.ขับรถถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด
3.ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
4.เป็นผู้ขับรถเสพยา เสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ให้โทษเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
5.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ
6.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
7.เป็นผู้ขับฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานสอบสวนที่สั่งให้มีการทดสอบ และตรวจสอบผู้ขับรถตามกฎหมาย โดยไม่มีเหตุ หรือข้อแก้ตัวอันสมควร
ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น.ภายหลังการนัดตรวจสอบเอกสารประกอบคำฟ้อง นายเจนภพ พร้อมครอบครัวทีมทนายความได้เดินลงมาจากศาลด้วยสีหน้าวิตกกังวล และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลต่อทางผู้สื่อข่าว
ด้าน นางกมลรัตน์ ฮ้อแสงชัย อายุ59 ปี มารดาของ น.ส.ธันฐภัทร์ พร้อมด้วย นายวิเชียร ชุปไธสง ทนายความ เปิดเผยว่า นายเจนภพ รับสารภาพเพียงข้อหาเดียวคือ ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล และทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนอีก 6 ข้อหา ให้การปฏิเสธ ศาลได้มีการนัดตรวจสอบเอสารประกอบคำฟ้องอีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. ในวันนี้ยังตรวจไม่เสร็จสิ้น และวันนี้ทางครอบครัวได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมเป็นเงิน 100,635,503 บาท
“ถ้าศาลพิพากษา และได้เงินมา ทางบิดา มารดาของ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย จะนำเงินส่วนใหญ่ไปตั้งมูลนิธิสืบสานเจตนารมณ์ที่ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย มีมาแต่เด็ก ในการที่จะทะนุบำรุงศาสนาพุทธ และจะตั้งมูลนิธิเพื่อรณรงค์การขับรถอย่างมีสติต่อไป และจากการพิจารณาทางครอบครัวเราพบประเด็นใหม่หลายประเด็น จึงขอนำข้อเสนอไปพิจารณาใหม่ ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม”