อุบลราชธานี - รองผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันพบผู้ป่วยไข้ไวรัสซิกา เป็นหญิงอายุ 39 ปี อาศัยอยู่แนวชายแดนไทย-ลาว ปัจจุบันหายเป็นปกติ แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังวางระบบป้องกันไม่ให้โรคมีการระบาดซ้ำ คาดรับเชื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีการเดินทางข้ามไปมาเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า
ที่ห้องประชุมเล็กองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี นายนิกร สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นพ.พิทักษ์พงษ์ จันทร์แดง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด แถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika virus) เป็นหญิงวัยกลางคนอายุ 39 ปี มีอาชีพทำนา และรับจ้าง พักอยู่ในหมู่บ้านปากหลาง หมู่ที่ 6 ต.สองคอน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา และวันที่ 22 พ.ย.เข้ามารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ โดยมีอาการไข้ต่ำๆ มีผื่นตามแขน ขา มีอาการปวดข้อมือ เท้า แพทย์ผู้ให้การตรวจรักษาสงสัยจะติดเชื้อไวรัสซิกา จึงเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ ส่งให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 จ.อุบลราชธานี และโรงพยาบาลรามาธิบดี ผลการตรวจวิเคราะห์เชื้อทั้ง 2 หน่วยงานยืนยันป่วยเป็นไวรัสซิกา
ส่วนอาการของผู้ป่วยปัจจุบันไม่มีไข้ อาการผื่นตามแขน ขา ลดลงเป็นปกติ รวมทั้งไม่มีภาวะแทรกซ้อนของโรคใดๆ แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับการรับเชื้อไม่สามารถยืนยันในจุดที่รับเชื้อได้ เนื่องจากภูมิลำเนาของผู้ป่วยตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-ลาว มีการเดินทางข้ามแดนผ่านไปทางแม่น้ำโขง เพื่อรับซื้อของป่าจากประเทศลาวมาจำหน่ายเป็นครั้งคราว
นายนิกร กล่าวถึงการควบคุมโรค หลังทราบเรื่องสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน พร้อมเข้าให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่รัศมีรอบที่พักอาศัยที่พบผู้ป่วย และทำการเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยในชุมชน ค้นหาหญิงตั้งครรภ์ทั้งในหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ เร่งฉีดพ่นยากำจัดลูกน้ำยุงลาย จนกว่าจะไม่พบผู้ป่วยรายใหม่
สำหรับโรคนี้จะมีผลกระทบสำคัญต่อหญิงที่ตั้งครรภ์ ทำให้ทารกในครรภ์ และแรกคลอดมีความผิดปกติทางสมอง และอวัยวะอื่นๆ ส่วนในผู้ป่วยทั่วไปสามารถรักษาให้หายได้ตามอาการป่วยภายใน 1 สัปดาห์