กาญจนบุรี - ผบก.กาญจน์ชบุรี เผย 1 ใน 2 โจ๋ซิ่งเก๋งยิงปืนเปิดทางแหกด่านตำรวจกาญจนบุรี ก่อนถูกวิสามัญดับทั้งคู่เพิ่งพ้นโทษคดีฆ่า พัวพันยาเสพติด ส่วนเจ้าของรถยนต์เก๋งชาวสุพรรณบุรี รับไม่มีเงินผ่อนส่ง จึงจำนำกับเพื่อนเอาไว้ ไม่รู้ว่ามาอยู่กับคนตายได้อย่างไร
วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายณัฐวุฒิ วิหคทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 16 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ 8068 นนทบุรี ฝ่าด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่บริเวณถนนบ้านยาง หมู่ 1 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดย พ.ต.ต.อุทัย อินทรักษ์ สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังได้ขับรถยนต์สายตรวจติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
และมีการใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางเพื่อหลบหนีตลอดเส้นทางของการหลบหนี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญเสียชีวิตภายในรถพร้อมกัน 2 ศพ ที่บริเวณถนนสาย 324 หมู่ 8 ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยทราบชื่อผู้ที่เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ นายธงไชย สายเมธี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170/5 ถนนมาลัยแมน ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งยาต้านไวรัส โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้นำศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
ล่าสุด พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีว่า จากการตรวจสอบประวัติทางด้านอาชญากรรมของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราบ พบว่า ปัจจุบันทั้งสองอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเมื่อปี พ.ศ.2552 นายณัฐวุฒิ วิหคทอง คนขับเคยถูกศาลตัดสินจำคุกในข้อหาฆ่าผู้อื่น อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน
สำหรับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ ตรวจสอบแล้วพบว่า หมายเลขทะเบียน กบ 8068 นนทบุรีนั้น เป็นเลขทะเบียนของรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งที่ผู้เสียชีวิตนำมาติดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ส่วนหมายเลขทะเบียนที่แท้จริง คือ ญร 5684 กทม.โดยมี นายปรีชา ดอนสุวรรณ เป็นผู้เช่าซื้อมาจากบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ นายปรีชา ทราบว่า เพื่อนชื่อนายน้อย ได้จ้างวานให้เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมา จากนั้น นายน้อย ได้นำรถยนต์เก๋งไปใช้ส่วนตัว แต่มาภายหลังนายน้อย ไม่มีเงินผ่อนส่งรายเดือน ดังนั้น จึงนำรถยนต์เก๋งมาใช้เอง แต่ต่อมา นายปรีชา ก็ไม่สามารถผ่อนค่าเช่าซื้อได้เช่นกัน ดังนั้น จึงนำรถยนต์เก๋งไปจำนำเอาไว้กับคนรู้จัก แต่ไม่ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมาอยู่กับผู้เสียชีวิตได้อย่างไรเช่นกัน ซึ่งจะได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงจากเพื่อนที่รับจำนำรถยนต์อีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.คำรณ เปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งทำการสอบสวนใน 3 สำนวนคือ เร่งสอบสวนเพื่อยื่นสำนวนส่งให้อัยการ เพื่อให้อัยการสั่งการให้สอบสวนว่าผู้ตายนั้นมีพฤติกรรมอย่างไร ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการวิสามัญ คงใช้เวลาเวลา 30 วันตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ แต่หากไม่ทันเวลาที่กำหนดก็สามารถขออนุมัติขยายเวลาออกไปได้ตามความเหมาะสม
สำนวนที่สองคือ การสอบสวนเพื่อหาสาเหตุว่าทำไมผู้ตายจะต้องใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนีการตรวจค้น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ ซึ่งคงต้องใช้เวลานานพอสมควร และสำนวนที่สามคือ ให้เจ้าหน้าที่เร่งทำสำนวนสอบสวนว่าก่อนมีการวิสามัญ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้อาจจะทำให้ล่าช้าไปบ้าง เพราะต้องรอคำสั่งจากศาล เพื่อนำมาใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนด้วย
ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับคดีให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รอบคอบ และโปร่งใสที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย