xs
xsm
sm
md
lg

จ่อหมายจับ 9 วัยรุ่นกาญจน์รุมกระทืบ นศ.วิศวกรรม รองอธิการบดี ม.จอมบึงชี้เป็นภัยต่อสังคม ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 ผศ.ดร.ชัชวาล แอร่มหล้า รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ขวาสุดเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเงินให้กับ น.ส.กัญญา ปีคงพันธ์ อายุ 38 ปี แม่ของนายพีรพล วิชาดี หรือน้องเต้ย อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา ปี 1 มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง เหยื่อกลุ่มวัยรุ่นที่นอนป่วยเป้นเจ้าชายนิทรา ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
กาญจนบุรี- รองอธิการบดี ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง หดหู่ใจหลังเยี่ยม นศ.วิศวกรรมโยธา ปี 1 เหยื่อโจ๋กาญจน์ตีนโหด พร้อมให้ดร็อปรักษาจนกว่าจะหาย แนะ ตร.เมื่อจับกุมกลุ่มผู้กระทำได้แล้วถึงแม้จะเป็นเยาวชนก็ต้องมีบทลงโทษที่เหมาะสมต่อการกระทำที่รุนแรงเพื่อให้เกิดความหลาบจำ ส่วนผู้ปกครองจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ชี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร้ายแรง และกำลังเป็นภัยต่อสังคม “ผกก.ท่าม่วง” เผยคดีคืบหน้าไปมาก พบมีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 16 คน มอบตัวแล้ว 2 อีก 5 ประสานมอบตัววันจันทร์นี้ เตรียมออกหมายเรียกอีก 9 แนะผู้ปกครองพาเข้ามอบตัวก่อนโดนหมายจับ

วันนี้ (17 ก.ย.) ผศ.ดร.ชัชวาล แอร่มหล้า รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่นจังหวัดกาญจนบุรี รุมทำร้าย นายพีรพล วิชาดี หรือน้องเต้ย อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา ปี 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า หลังจากทราบข่าวว่า นายพีรพล หรือน้องเต้ย นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่ง ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง รวมทั้งคณะอาจารย์ และเพื่อนนักศึกษาด้วยกันมีความเป็นห่วง และกังวลใจเกี่ยวกับอาการของน้องเต้ย เป็นอย่างมาก

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางมาเยี่ยมอาการของน้องเต้ย ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี ซึ่งพบว่า น้องเต้ย ยังไม่รู้สึกตัว และต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิดอยู่ที่ห้องไอซียู ซึ่งก็รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก โดยหลังจากได้พูดคุยกับ น.ส.กัญญา ปีคงพันธ์ ก็รู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะ น.ส.กัญญา มีลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่หวังเป็นที่พึ่งหลังจากลูกชายเรียนจบ และมีงานทำในอนาคต แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเสียก่อน

ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลไปแล้วเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง แต่ก็คงไม่เพียงพอ ปกติทางมหาวิทยาลัยได้มีการทำประกันอุบัติเหตุหมู่ของนักศึกษาระดับ ปี 1 เอาไว้ แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดแล้วพบว่า การบาดเจ็บของ น้องเต้ย ไม่เข้าข่ายของการทำประกันอุบัติเหตุ จึงไม่สามารถเบิกเงินจากประกันได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยฯ จะหาทางช่วยเหลือด้านอื่นแทน

“ส่วนการเรียนนั้นทางมหาวิทยาลัยฯ ให้น้องเต้ย ดร็อปการเรียนเอาไว้ก่อนรอจนกว่าอาการจะหายกลับมาเป็นปกติ จากนั้นก็สามารถกลับมาศึกษาต่อได้ทันที แต่ดูจากอาการแล้วคาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร เพราะจนถึงขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมา 7 วัน อาการของน้องเต้ย ยังคงเป็นเจ้าชายนิทรารักษาอยู่ในห้องไอซียูอยู่ จึงยังไม่รู้ว่าเมื่อหายกลับมาอยู่บ้าน อนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งทางมหาวิทยาลัยฯ ก็ได้แต่ส่งกำลังใจไปถึงน้องเต้ย ให้หายกลับมาโดยไว และคอยให้กำลังใจแม่ และญาติของน้องเต้ยเท่านั้น” ผศ.ดร.ชัชวาล กล่าว

ผศ.ดร.ชัชวาล กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง และกำลังเป็นภัยต่อสังคม และเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้น ดังนั้น จึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีขอให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา อย่าให้เหตุการณ์ดังกล่าวเงียบหายไป และเมื่อจับกุมกลุ่มผู้กระทำได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเยาวชนก็ตาม ก็ขอให้เจ้าหน้าที่มีบทลงโทษที่ที่เหมาะสมต่อการกระทำที่รุนแรงเพื่อให้เกิดความหลาบจำ ส่วนผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่น จะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผกก.สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้าย นายพีรพล หรือน้องเต้ย มีทั้ง 16 คน มีหัวโจกอายุ 18 ปี อยู่ 2 คน โดยหลังจากเกิดเหตุ มีผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้ามามอบตัว จำนวน 2 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเอาไว้แล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ชื่อเล่น และชื่อจริง รวมทั้งที่อยู่ของกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายพีรพล ที่ยังไม่เข้ามามอบตัวหมดแล้ว คดีดังกล่าวจึงถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากผู้ปกครองว่าจะนำบุตรหลานเข้ามามอบตัวในวันจันทร์นี้เพิ่มอีก 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 9 คน ยังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากครบกำหนดแล้วยังไม่มามอบตัว เจ้าหน้าที่ก็จะออกหมายจับทันที ดังนั้น ผู้ปกครองท่านใดหากรู้ว่าบุตรหลานทำผิดก็ขอให้พาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว

จากการสอบปากคำ รวมทั้งตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุพบว่า กลุ่มวัยรุ่นมีทั้งอาวุธมีด และวัตถุระเบิดลักษณะคล้ายระเบิดปิงปอง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีต่อวัยรุ่นทั้งหมดในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และมีวัตถุระเบิดไว้ในการครอบครองโดยผิดกฎหมาย ส่วนจะมีข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเพิ่มเติมหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนพร้อมกับหาหลักฐานทางด้านวัตถุ และสอบปากคำบุคคลเพิ่มเติมอย่างละเดียด เพื่อส่งให้อัยการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับแนวทางการสืบสวน พบว่า ก่อนเกิดเหตุทราบว่า มีวัยรุ่น 2 กลุ่ม คือ วัยรุ่นกลุ่ม ต.ลาดหญ้า และวัยรุ่นกลุ่มหัวนา ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี ประมาณ 30 คน ได้ไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดของเพื่อนชื่อโน้ต ที่จัดงานฉลองที่แพล่องชื่อดังแห่งหนึ่ง ระหว่างเลี้ยงฉลองอยู่บนแพที่อยู่กลางแม่น้ำได้มีเรื่องทะเลาะชกต่อยกันเกิดขึ้น เจ้าขอแพจึงตัดสินใจลากแพเข้าฝั่งเพื่อให้วัยรุ่นทั้งหมดแยกย้ายกันกลับบ้าน

จากนั้นวัยรุ่นกลุ่ม ต.ลาดหญ้า ได้แยกย้ายกันกลับบ้านโดยไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งวัยรุ่นที่ลงมือก่อเหตุทั้ง 16 คน เป็นวัยรุ่นกลุ่มหัวนา ทั้งหมดเฉลี่ยอายุระหว่าง 14-18 ปีเท่านั้น และจากการติดตามตัว นายโน๊ต วัยรุ่นเจ้าของวันเกิดก็พบว่า ได้ประสบอุบัติเหตุทางถนนเสียชีวิตไปแล้วเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น