กาญจนบุรี - เกษตรกรชาวกาญจนบุรี แห่ลงทะเบียนจองที่ดินทำกินที่สำนักงาน ส.ป.ก.กาญจนบุรีกันคึกคัก หลังนายกฯ ตู่ ประกาศใช้ ม.44 คำสั่งที่ 36/2559 ยึดคืนที่ดินจากนายทุนมากกว่า 500 ไร่ เข้าสู่กระบวนการปฏิรูป จัดสรรให้ประชาชนในรูปแบบสหกรณ์
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ถ.แม่น้ำแม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศใช้มาตรา 44 คำสั่งที่ 36/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย ประกาศเมื่อวันที่ 5 ก.ค.
ต่อมา วันที่ 6 ก.ค.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ร่วมแถลงข่าวถึงการดำเนินการตามมาตรา 44 หลังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก.จากผู้ครอบครองรายใหญ่ผิดกฎหมายเข้าสู่กระบวนการปฎิรูปที่ดินเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ในพื้นที่เป้าหมาย
ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ในจังหวัดที่ต้องดำเนินการ โดยมีเป้าหมาย 16 แปลง ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ไทรโยค อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.เลาขวัญ อ.พนมทวน และ อ.เมืองกาญจนบุรี รวมเนื้อที่ 17,566.01 ไร่ โดยทั้ง 16 แปลง นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำประกาศสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่องกำหนดพื้นที่เป้าหมายการดำเนินการกับผู้ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปติดที่หน้าแปลง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.จำนวน 12 แปลง วันที่ 22 ก.ค.จำนวน 3 แปลง และวันที่ 1 ส.ค.จำนวน 1 แปลง การติดประกาศดังกล่าว ส.ป.ก.จะให้โอกาสผู้ครอบครองที่ดินมากกว่า 500 ไร่ นำเอกสารมาแสดงการครอบครองภายในเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันติดประกาศของแต่ละแปลง
ปัจจุบัน มีผู้นำเอกสารการครอบครองที่ดินมาแสดงต่อ ส.ป.ก.แล้ว จำนวน 68 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบความชัดเจนของเอกสารทั้งหมดนับตั้งแต่วันที่ผู้ครอบครองนำเอกสารมาแสดง และจะต้องแล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นจะแจ้งให้ผู้ครอบครองที่ดินทราบว่า เอกสารที่นำมาแสดงนั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ส.ป.ก.ก็จะส่งมอบคืนพื้นที่ให้ทันที แต่หากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า เอกสารการครอบครองที่นำมาแสดงนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ครอบครองก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนที่ดินเนื้อที่ จำนวน 1042 ไร่ ของวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือวัดเสือ และที่ดินจำนวน 1,263 ไร่ ของ น.ส.เพียงใจ และที่ดิน จำนวน 900 ไร่ ของสมาคมชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้ง 3 แปลง ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ยังไม่ครบกำหนดเวลา 15 วันในการให้โอกาสนำเอกสารมาแสดง แต่หลังจากติดประกาศได้ไม่นาน วัดป่าหลวงตาบัวฯ ก็ได้นำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ในส่วนที่ดินของ น.ส.เพียงใจ นั้นไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจาก น.ส.เพียงใจ ได้ยินยอมมอบคืนที่ดินเนื้อที่ 1,263 ไร่ให้แก่ ส.ป.ก.แล้ว แต่ยังคงเหลือที่ดินเนื้อที่ 900 ไร่ ของสมาคมฯ ยังไม่มีผู้ใดนำเอกสารมาแสดงแต่อย่างใด
หากพ้นกำหนดเวลาเจ้าหน้าที่ก็สามารถยึดคืนเพื่อนำที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินจัดสรรให้เกษตรกร ในรูปแบบชุมชนสหกรณ์รายละ 6 ไร่ ได้ทันที ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์
นายวัชรินทร์ วากะมะนนท์ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เปิดเผยต่อว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศใช้มาตรา 44 คำสั่งที่ 36/2559 เรื่องมาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมโดยมิชอบกฎหมาย ประกาศเมื่อวันที่ 5 ก.ค.หลังจากประชาชนทราบข่าวว่า รัฐบาลจะจัดสรรที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยให้รายละ 6 ไร่ มีเกษตรกรเดินทางมาลงทะเบียนเพื่อยื่นขอที่ดิน จากตัวเลขตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.จนถึงวันที่ 29 ก.ค.พบว่ามีเกษตรกรมาลงทะเบียนเอาไว้แล้ว 2,109 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีเกษตรกรมาลงทะเบียนเอาไว้กว่า 700 ราย จากทุกอำเภอ และยังคงทยอยเดินทางมาลงทะเบียนกันอย่างต่อเนื่องทุกวัน บางวันมีมากถึง 200 ราย
ขั้นตอนการพิจารณา ส.ป.ก.จะต้องนำรายชื่อเกษตรกรที่มาลงทะเบียนทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการพิจารณาด้วยการพิจารณามอบให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก โดยผ่านคณะกรรมการในระดับชาติ และระดับจังหวัด ในส่วนคณะกรรมการพิจารณาระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดเป็นประธาน มี ส.ป.ก.แต่ละจังหวัดเป็นเลขา และคณะกรรมการ โดยจะนำที่ดินที่ ส.ป.ก.ตรวจยึดคืนมาได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อจัดที่ดินชุมชนในรูปแบบสหกรณ์ จัดสรรให้เกษตรกรให้เร็วที่สุด
นอกจากการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรแล้ว ส.ป.ก.ยังจะพิจารณามอบที่ดินให้แก่กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ผ่านการอบรมจาก ส.ป.ก.โดยอาจจะขอโควตาที่ดินประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์มอบให้ เพราะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถเป็นแกนนำให้ความรู้แก่เกษตรกรในแต่ละชุมชนได้เป็นอย่างดี
นายสมชาย เพ็งโตวงษ์ อายุ 53 ปี นายอนันต์ กำแพงแก้ว อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และ น.ส.วรรณวดี เรี่ยมภา อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ต่างกล่าวขอบคุณ ส.ป.ก.กาญจนบุรี ที่ให้โอกาสประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเองได้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ และยังทำให้มีรายได้จากอาชีพเกษตรกรโดยที่ไม่ต้องไปเช่าที่ดินจากนายทุน หากได้ที่ดินมาก็ตั้งใจจะใช้ที่ที่ได้มาทำอาชิพเกษตรกรตามที่ตนเองถนัด หนี้สินที่ยังคงมีอยู่ก็จะได้หมดไป ลูกหลานก็จะได้มีที่อยู่อาศัย และสามารถนำรายได้ที่มีไปเรียนหนังสือให้สูงขึ้นได้
ที่สำคัญเกษตรกรทุกคนที่มาต่างแสดงความขอบคุณไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ได้ประกาศใช้มาตรา 44 คำสั่งที่ 36/2559 เพราะจะทำให้ที่ดินที่ยึดคืนจากกลุ่มนายทุนถึงมือเกษตรกรได้โดยตรง